จากการเข้าสู่ช่วงการทยอยประกาศงบผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 3/67 ของเหล่าบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ทำให้เป็นที่น่าจับตาว่าจะมีหุ้นในธุรกิจหรืออุตสาหกรรมใดบ้าง ที่ผลการดำเนินงานออกมาโดดเด่น แม้ว่าในไตรมาส 3 ตามปกติของทุกปีจะเป็นโลวซีซัน
นายสุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) เปิดผยว่า จากนี้จะเริ่มเข้าสู่ช่วงการทยอยประการผลประกอบการของ บจ. โดยในกลุ่มแรกที่มีการเปิดงบก่อน คือ กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ซึ่งในไตรมาส 3/67 ผลงานออกมาก็ทำได้ค่อนข้างนี้
อีกหนึ่งกลุ่มที่ค่อนข้างน่าสนใจ คือ หุ้นกลุ่มที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับเนื้อสัตว์ทั้งหมูและไก่ ที่ราคาในช่วงไตรมาส 3/67 อยู่ในระดับที่ค่อนข้างดี โดยราคาเนื้อไก่และหมู ในช่วงเดือนก.ค. อยู่ที่เฉลี่ย 43-44 บาท/กิโลกรัม (กก.) และ 66-72 บาท/กก. เดือนส.ค. อยู่ที่เฉลี่ย 43-44 บาท/กก. และ 72-75 บาท/กก.
และเดือนก.ย. อยู่ที่เฉลี่ย 43-44 บาท/กก. และ 74-75 บาท/กก. ตามลำดับ แม้ว่าในช่วงปลายเดือนก.ย.67 ทั้งราคาเนื้อไก่และหมูจะปรับตัวลดลงบ้างราว 2-3 บาท/กก. แต่โดยรวมถือว่าราคาเนื้อไก่และหมูยังคงยืนอยู่ในระดับที่ดีกว่าเมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน
นอกจากนี้ ยังได้รับปัจจัยบวกจากความต้องการบริโภคของตลาดต่างประเทศที่ขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยจากตัวเลขการส่งออกไทยในช่วงเดือนก.ย.67 การส่งออกของไทยมีมูลค่า 25,983.2 ล้านดอลลาร์ ขยายตัว 1.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 66
โดยการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรมูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร ขยายตัว 3.5% ขยายตัวต่อเนื่อง 3 เดือน และผลิตภัณฑ์ไก่แปรรูป ขยายตัว 0.8% นับว่าเป็นการขยายตัวอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 7 สะท้อนต่อการเติบโตของยอดขายผู้ประกอบการจำหน่ายเนื้อไก่ไทยที่เพิ่มขึ้น
จากปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น ส่งให้ทางฝ่ายมองว่าเป็นปัจจัยเชิงบวกต่อผลประกอบการในไตรมาส 3/67 ของหุ้นกลุ่มผู้ประกอบการผลิตและจำหน่ายเนื้อไก่และหมู ได้แก่
บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF คาดกำไรไตรมาส 3/67 แข็งแกร่งที่ระดับ 6.78 พันล้านบาท และยอดขายเติบโต 5% สู่ระดับ 1.510 แสนล้านบาท ทางฝ่ายประเมินราคาเป้าหมายปี 68 ที่ 68.50 บาท
บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG มองว่าจากแผนการขยายกำลังการผลิตธุรกิจหมูที่เวียดนาม 30% ในช่วงครึ่งหลังปี 67 ต้นทุน เช่น ราคากากถั่วเหลืองและข้าวสาลี ปรับตัวลดลง ทำให้คาดว่าจะหนุนมาร์จิ้นในไตรมาส 3/67 เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี คาดว่าทั้งปี 67 กำไรสุทธิจะอยู่ที่ 2.78 พันล้านบาท และปี 68 เพิ่มขึ้นเป้น 3.33 พันล้านบาท ทางฝ่ายประเมินราคาเป้าหมายปี 68 ที่ 6.10 บาท
บริษัท จีเอฟพีที จำกัด (มหาชน) หรือ GFPT จากการเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ของโรงเชือดไก่ใหม่ในไตรมาส 3/67 ทำให้กำลังการผลิตเพิ่มเป็น 3 แสนตัว/วัน ประกอบกับต้นทุนกากถั่วเหลือปรับตัวลดลง หนุนต่อผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น ขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่าไม่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงาน เพราะมีการป้องกันความเสี่ยงโดยธรรมชาติ (Natural hedge) ทั้งนี้ คาดว่าทั้งปี 67 กำไรสุทธิอยู่ที่ 1.99 พันล้านบาท โต 44% เทียบช่วงเดียวกันในปีก่อน และปี 68 ที่ 1.91 พันล้านบาท ประเมินราคาเป้าหมายปี 68 ที่ 12.90 บาท
บริษัท เบทาโกร จำกัด (มหาชน) หรือ BTG มองในปี 68 กำไรสุทธิจะอยู่ที่ไม่น้อยกว่า 2.97 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นกว่า 60% จากเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน (67) เนื่องจากรับรู้รายได้และกำไรจากการซื้อกิจการใหม่ในธุรกิจไข่ไก่ในสิงคโปร์ ประเมินราคาเป้าหมายปี 68 ไว้ที่ 23.00 บาท อย่างไรก็ตาม ทางฝ่ายอาจมีการปรับประมาณการ BTG อีกครั้งในภายหลัง
สำหรับทิศทางในไตรมาส 4/67 คาดการณ์ว่าผลการดำเนินงานของหุ้นกลุ่มไก่อาจอ่อนตัวลงตามซีซันนอล ประกอบกับจากแนวโน้มราคาเนื้อไก่และหมู ที่ปรับตัวลดลง โดยในช่วงเดือนต.ค. อยู่ที่ระดับ 36-37 บาท/กก. และ 68-72 บาท/กก. ลดลงราว 6-7 บาท/กก. และ 3-7 บาท/กก. ตามลำดับ
ราคาหุ้น CPF ปิดตลาดวันที่ 30 ต.ค.67 อยู่ที่ระดับ 25.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท เปลี่ยนแปลง 1.21% มีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 481.92 ล้านบาท โดยมูลค่าตามราคาตลาด (Market Cap.) ที่ 207,815.14 ล้านบาท
ราคาหุ้น TFG ปิดตลาดวันที่ 30 ต.ค.67 อยู่ที่ระดับ 4.12 บาท ลดลง 0.02 บาท เปลี่ยนแปลง 0.48% มีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 6.44 ล้านบาท ขณะที่ Market Cap. อยู่ที่ 24,056.79 ล้านบาท
ราคาหุ้น GFPT ปิดตลาดวันที่ 30 ต.ค.67 อยู่ที่ระดับ 11.20 บาท ลดลง 0.20 บาท เปลี่ยนแปลง 1.75% มีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 17.68 ล้านบาท ขณะที่ Market Cap. อยู่ที่ 14,293.56 ล้านบาท
ราคาหุ้น BTG ปิดตลาดวันที่ 30 ต.ค.67 อยู่ที่ระดับ 21.00 บาท ลดลง 0.60 บาท เปลี่ยนแปลง 2.78% มีมูลค่าการซื้อขายทั้งสิ้น 96.06 ล้านบาท ขณะที่ Market Cap. อยู่ที่ 41,791.68 ล้านบาท