"สินนท์" ประกาศแผน 5 ปี ลดสัดส่วน EBITDA ถ่านหินต่ำกว่า 50%

17 พ.ย. 2567 | 23:00 น.

BANPU ชูกลยุทธ์ใหม่ “Energy Symphonics” เปลี่ยนผ่านสู่พลังงานที่ยั่งยืน ตั้งเป้าลดสัดส่วน EBITDA ที่มาจากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับถ่านหินลดต่ำกว่า 50% ภายในปี 73 มุ่งสู่ พร้อมเดินหน้า Net Zero ในปี 93 อัดงบ 3-3.5 พันล้านดอลลาร์ รองรับการเติบโตอย่างยั่งยืน

นายสินนท์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU เปิดเผยว่า บริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์และเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจระยะ 6 ปีข้างหน้า (2568-2573) ใหม่ โดยจะลดสัดส่วนกำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) ที่มาจากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับถ่านหินให้ต่ำกว่า 50% ภายในปี 2573

โดยบริษัทวางงบประมาณลงทุนในระยะ 6 ปีต่อจากนี้ไว้ที่ไม่น้อยกว่า 3,000-3,500 ล้านดอลลาร์ หรือตกเฉลี่ยประมาณ 500-600 ล้านดอลลาร์/ปี ทั้งนี้ บริษัทจะแบ่งสัดส่วนการใช้งบลงทุนออกเป็นกว่า 60% รองรับในการลงทุนธุรกิจก๊าซธรรมชาติ และโรงไฟฟ้า ในขณะที่อีก 40% ที่เหลือใช้รองรับการลงทุนในธุรกิจโซลาร์และแบตเตอรี่

พร้อมกันนี้ บ้านปูยังคงมีความสนใจในการลงทุนเหมือนแร่ใหม่ๆ เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เช่น เหมือนแร่ทองคำ ทองแดง เงิน ลิเทียม และ นิกเกิล เป็นต้น ซึ่งเป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตแบตเตอรี่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุน และหาช่วงจังหวะเวลาที่มีความเหมาะสมในการลงทุน

สำหรับราคาก๊าซธรรมชาติและถ่านหินในปี 2568 และอนาคตอันใกล้ มองว่ายังคงทรงตัวในระดับที่ใกล้เคียงปัจจุบันหรืออาจบวกลบเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ดี ด้วยความต้องการใช้พลังงานยังคงมีอยู่ทำให้มองว่าด้วยพลังงานก๊าซธรรมชาติและถ่านหินเป็นต้นทุนที่ถูกในการผลิตพลังงานทำให้เชื่อว่าราคาจะยังคงมีแนวโน้มที่เป็นบวกอยู่

"มองภาพไปในอนาคตแม้ถ่านหินจะเป็นเหมือน DNA ของคนรุ่นเก่าของบ้านปู และความต้องการใช้งานยังคงมีอยู่ แต่มันถึงเวลาแล้วที่เราต้อง Move on แต่นั้นไม่ได้หมายความว่าเราจะเลิกกิจการถ่านหิน เพียงแต่จากนี้ไปตั้งแต่กระบวนการผลิตถ่านหินไปจนถึงกระบวนการระหว่างทางจะต้องลดปริมาณคาร์บอนและลดการปล่อยมลพิษให้ได้มากที่สุด"

เพื่อสร้างโซลูชันพลังงานใหม่ที่ยั่งยืน ‘Energy Symphonics’ สื่อถึงแนวทางผสานพลังงานที่หลากหลาย ตอบสนองต่อความต้องการพลังงานของโลกที่เพิ่มสูงขึ้น พร้อมไปกับการดูแลโลกของเรา ซึ่งบ้านปูมีความมุ่งมั่นที่จะแก้โจทย์ความท้าทายด้านพลังงาน และสร้างมาตรฐานใหม่เพื่อพลังงานที่มีใช้อย่างต่อเนื่อง ราคาสมเหตุสมผล และมีความยั่งยืน

BANPU กางกลยุทธ์ใหม่

ทั้งนี้ กลยุทธ์ใหม่ของบ้านปูมุ่งมั่นในการเป็นผู้นำการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานอย่างมีความรับผิดชอบและยั่งยืน โดยมุ่งเน้นที่ 3 เป้าหมายหลัก ได้แก่

  • ความมั่นคงทางพลังงาน คือ การจัดหาพลังงานที่เชื่อถือได้และต่อเนื่อง
  • ความเสมอภาคด้านพลังงาน คือ การจัดหาพลังงานที่มีราคาสมเหตุสมผล ทุกคนสามารถเข้าถึงได้
  • ความยั่งยืนด้านพลังงาน คือ การจัดหาพลังงานที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

กลยุทธ์ของบ้านปูเน้นรักษาสมดุลและตอบ 3 โจทย์ของพลังงาน (Energy Trilemma) ได้แก่

  • การส่งมอบพลังงานที่เชื่อถือได้และต่อเนื่อง (Energy Security)
  • การจัดหาพลังงานที่มีราคาสมเหตุสมผลที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ (Energy Equity)
  • การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในการจัดหาพลังงาน (Energy Sustainability)

\"สินนท์\" ประกาศแผน 5 ปี ลดสัดส่วน EBITDA ถ่านหินต่ำกว่า 50%

4 ภารกิจสำคัญ

  1. เป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2050 (2593) และการลดคาร์บอน ตั้งเป้าหมายบรรลุ Net Zero ภายในปี 2050 ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกไม่น้อยกว่า 20% และลดสัดส่วน EBITDA ที่มาจากธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับถ่านหินให้ต่ำกว่า 50% ภายในปี 2573
  2. ธุรกิจก๊าซธรรมชาติ โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ และการดักจับและกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture, Utilization and Sequestration: CCUS) มุ่งเน้นการเติบโตด้วย ‘แนวทางสู่ความสำเร็จ’ ที่ผสานธุรกิจก๊าซธรรมชาติระดับต้นน้ำ โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ และธุรกิจ CCUS เพื่อส่งมอบโซลูชันก๊าซธรรมชาติคาร์บอนต่ำในสหรัฐอเมริกา พร้อมทั้งสร้างกระแสเงินสดที่แข็งแกร่ง
  3. ธุรกิจพลังงานหมุนเวียนและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง (Renewables+) เร่งขยายธุรกิจพลังงานหมุนเวียนทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกและภูมิภาคอื่นๆ โดยลงทุนในระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System: BESS) ธุรกิจปลายน้ำที่เกี่ยวข้อง และธุรกิจคาร์บอนเครดิต เพื่อสร้างความต่อเนื่องให้กับพลังงานหมุนเวียน พร้อมทั้งเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจ
  4. พัฒนาธุรกิจเหมืองแร่ยุคใหม่ ดำเนินกลยุทธ์การทำเหมืองอัจฉริยะ โดยการผสานการใช้โซลูชันอัจฉริยะและปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในกระบวนการทำเหมือง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงการลงทุนในแร่แห่งอนาคตที่สำคัญต่อการเปลี่ยนผ่านพลังงาน

เทรนด์พลังงานสำคัญ

สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 3/2567 บ้านปูมีความคืบหน้าทางธุรกิจที่สำคัญ ได้แก่ 

  • ความสำเร็จในการนำ BKV เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (New York Stock Exchange: NYSE) : การเสนอขายจำนวน 15,000,000 หุ้น ที่ราคา 18 ดอลลาร์สหรัฐ/หุ้น สามารถระดมทุนได้ถึง 270 ล้านดอลลาร์ สะท้อนถึงศักยภาพการเติบโตของธุรกิจที่ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่คุณค่าก๊าซธรรมชาติในสหรัฐอเมริกา โดยบ้านปูยังคงถือหุ้นใหญ่ใน BKV
  • บริษัทร่วมทุนระหว่าง BKV Corporation และ Banpu Power (BPP) ภายใต้ชื่อ BKV-BPP Power JV สามารถรองรับการเติบโตของความต้องการพลังงานไฟฟ้าและ Data Center พร้อมคว้าโอกาสทางธุรกิจจากตลาดพลังงานในสหรัฐอเมริกา
  • การขยายการเติบโตของบ้านปู เน็กซ์ ในญี่ปุ่น : บ้านปู เน็กซ์ หนึ่งในบริษัทเรือธงของกลุ่มบ้านปู เข้าลงทุนในบริษัท แอมป์ จำกัด (แอมป์ เจแปน) บริษัทชั้นนำในประเทศญี่ปุ่น ผู้พัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนตั้งแต่ระยะเริ่มต้นจนถึงการนำออกสู่ตลาด ด้วยงบลงทุน 35 ล้านดอลลาร์ เพื่อพัฒนาโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และพลังงานลม 800 เมกะวัตต์ สู่เป้าหมายกำลังผลิตรวมจำนวน 2 กิกะวัตต์ ภายในทศวรรษนี้ นอกจากนี้ แบตเตอรี่ฟาร์ม Iwate Tono ใกล้ก่อสร้างเสร็จสมบูรณ์แล้ว ขณะนี้กำลังติดตั้งอุปกรณ์แรงดันไฟฟ้าสูงและสถานีไฟฟ้าย่อยในเฟส 2 โดยคาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ในไตรมาสที่ 2/2568 

โรงไฟฟ้า บ้านปู

นอกจากนี้ ในไตรมาสที่ 3/2567 บ้านปูมีรายได้จากการขายรวม 1,339 ล้านดอลลาร์ หรือ ประมาณ 46,597 ล้านบาท ขณะที่ EBITDA รวม 379 ล้านดอลลาร์ หรือ ประมาณ 13,204 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิจำนวน 24 ล้านดอลลาร์ หรือ ประมาณ 830 ล้านบาท จากราคาตลาดของถ่านหินและก๊าซธรรมชาติที่ปรับตัวลดลง และการขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากอัตราแลกเปลี่ยน จากการแข็งค่าของเงินสกุลบาทต่อเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ 

“ไม่ว่าเราจะต้องประสบกับความท้าทายของตลาดพลังงานที่ผันผวน บ้านปูเชื่อมั่นว่ากลยุทธ์ Energy Symphonics จะสร้างการเติบโตให้กับบริษัทฯ สร้างคุณค่าระยะยาวให้แก่ผู้ถือหุ้น ในขณะที่ยังคงให้ความสำคัญกับการดูแลผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม รวมถึงการดูแลโลกใบนี้”