วันนี้ 29 ธันวาคม 2562 เวลา 11.00 น. สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินในงานสโมสรสันนิบาตเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสทรงได้รับการทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเครื่องราชอิสริยาภรณ์รัฐมิตราภรณ์ แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (Friendship Medal of the People's Republic of China) ซึ่งรัฐบาลจัดถวาย ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา พร้อมนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เฝ้าฯ รับเสด็จ โดยภริยานายกรัฐมนตรีทูลเกล้า ฯ ถวายมาลัย
จากนั้น นายกรัฐมนตรีขอพระราชทานพระราชานุญาตกราบบังคมทูลคำถวายพระพรชัยมงคล ในงานสโมสรสันนิบาตเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในโอกาสได้รับการทูลเกล้า ฯ ถวายเครื่องอิสริยาภรณ์ รัฐมิตราภรณ์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ใจความ ดังนี้
"ข้าพระพุทธเจ้า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในนามของคณะรัฐมนตรี คู่สมรส คณะทูตานุทูตข้าราชการ และพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่ มีความปลาบปลื้มปีติเป็นล้นพ้น ที่วันนี้ ใต้ฝ่าละอองพระบาทเสด็จพระราชดำเนินมาในงานสโมสรสันนิบาตเฉลิมพระเกียรติ ฯ ที่รัฐบาลจัดขึ้น เนื่องในโอกาสที่ใต้ฝ่าละออง พระบาททรงได้รับการทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเครื่องอิสริยาภรณ์รัฐมิตราภรณ์ แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ปวงข้าพระพุทธเจ้าต่างประจักษ์ชัดแจ้งในพระราชกรณียกิจด้านการต่างประเทศของ ใต้ฝ่าละอองพระบาทที่มีพระราชหฤทัย มุ่งมั่นในการกระชับและเจริญสัมพันธไมตรีกับนานาประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสาธารณรัฐประชาชนจีน จนได้รับการยกย่องว่าทรงเป็น “ทูตสันถวไมตรี” ทรงส่งเสริมมิตรภาพและความร่วมมือ ไทย- จีน ทั้งในด้านวัฒนธรรม การศึกษาและด้านอื่นๆ ทั้งนี้ การเสด็จ พระราชดำเนินเยือนต่างประเทศ นอกจากจะเป็นการทรงงานเพื่อเสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างประเทศแล้ว ยังได้ทรงนำความรู้จากการที่ได้ทอดพระเนตรกิจการด้านต่าง ๆ ทั้งสังคม วัฒนธรรม และความก้าวหน้าทางวิทยาการ ตลอดจนการได้ทรงสนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้นำประเทศ นักวิชาการในหลากหลายสาขา มาปรับใช้ในการทรงงานในประเทศไทย ก่อเกิดคุณูปการต่อชาติบ้านเมืองเสมอมา นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณ อันหาที่สุดมิได้
การที่นานาอารยประเทศได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรางวัลและเครื่องอิสริยาภรณ์จากต่างประเทศนั้น แสดงให้เห็นถึงสายธารแห่งไมตรีจิตของใต้ฝ่าละอองพระบาทที่แผ่ไปยังนานาประเทศ และสร้างสัมพันธภาพระหว่างประเทศไทยกับนานาประเทศให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ด้วยพระปรีชาสามารถอันล้ำเลิศ เป็นที่ประจักษ์แก่ชาวไทยและชาวต่างประเทศโดยถ้วนหน้า ควรที่คนในชาติจักได้ยึดถือปฏิบัติเป็นแบบอย่างแนวทาง ในการสร้างสรรค์ความเจริญก้าวหน้าให้แก่ชาติบ้านเมืองต่อไป
เนื่องในโอกาสอันเป็นมหามงคลยิ่งนี้ ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานถวายพระพรชัยมงคล ขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย และอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากล โปรดดลบันดาลประทานชัยมงคลให้ใต้ฝ่าละอองพระบาท ทรงพระเจริญ มีพระชนมายุยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ พระเกียรติคุณแผ่ไพศาล มีพระราชประสงค์จำนงหมายสิ่งใด ขอจงสัมฤทธิ์ และสำเร็จศุภผลดังพระราชหฤทัยปรารถนาทุกประการ
ณ วาระนี้ ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระราชานุญาตเชิญชวนผู้มีเกียรติที่มาร่วมในงานสโมสรสันนิบาตเฉลิมพระเกียรติ ณ ที่นี้ ดื่มถวายพระพรชัยมงคลแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารีเพื่อความสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคลสืบไป
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม”
เสร็จแล้ว ดนตรีบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี
ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงลงพระนามาภิไธยในสมุดเยี่ยมของรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีทูลเกล้าฯ ถวายของที่ระลึกที่รัฐบาลทูลเกล้าฯ ถวาย
เมื่อได้เวลาอันสมควร สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ โดยมีนายกรัฐมนตรีและภริยา และเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ส่งเสด็จ