เกาะติด"พายุโคนี"ทวีความแรงเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่นระดับ 5

01 พ.ย. 2563 | 02:19 น.
อัปเดตล่าสุด :01 พ.ย. 2563 | 09:33 น.

"พายุโคนี"ทวีความแรงเป็นซูเปอร์ไต้ฝุ่นขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์วันนี้ ชี้เป็นพายุที่แรงที่สุดในโลกของปีนี้ ด้านผลกระทบต่อประเทศไทยเตรียมประเมินสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2563 เกาะติดความเคลื่อนไหว "พายุไต้ฝุ่นโคนี"ที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าประเทศฟิลิปปินส์ในวันนี้ โดยทางการฟิลิปปินส์ได้สั่งอพยพประชาชนตามแนวชายฝั่งและในพื้นที่เสี่ยงภัยโดยเฉพาะพื้นที่ทางใต้ของเกาะลูซอน 


ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก "เตือนภัยพิบัติ วาตภัย ฝนฟ้าพายุเพจ 2 " โพสต์ข้อความว่า พายุ​ซูเปอร์​ไต้ฝุ่น​โคนี ทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอีกกำลัง​เคลื่อนตัว​ขึ้น​ฝั่ง​ประเทศ​ฟิลิปปินส์​ ด้วย​ความเร็ว​ลม​สูงสุด​ใกล้​จุด​ศูนย์กลาง (ข้อมูล​ช่วง​เวลา​19:00น.ถึง08:00น.เช้า1/11/2563.,)ข้อมูล​JTWC ลม​คงที่​314กิโลเมตร​ต่อ​ชั่วโมง​ ลม​กระโชก​ 379 กิโลเมตร​ต่อ​ชั่วโมง เป็น​พายุ​ซูเปอร์​ไต้ฝุ่น​ระดับ​ 5​ ที่มีค​วาม​รุนแรง​ที่สุด​ใน​ปี​ 2020 เป็นพายุที่มีความรุนแรงที่สุดในศตวรรษ แรงที่สุดในโลก

 


ภาพถ่าย​ดาวเทียม​ล่าสุด​เวลา 07:19น.ตามเวลา​ประเทศไทย กำลังเคลื่อนตัวลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนกลางวันนี้
 

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

ภาพดาวเทียม พายุ “ซูปเปอร์ไต้ฝุ่นโคนี” 1 พ.ย. 63  

ซูปเปอร์ไต้ฝุ่น “โคนี” พายุแรงสุดในรอบปี ขึ้นฝั่งฟิลิปปินส์ วันนี้ 

กรมอุตุฯ เตือนรับมือฝนถล่ม 36 จังหวัดวันนี้!

ผลกระทบ "พายุไต้ฝุ่นโคนี" น้ำป่าทะลัก “ปักธงชัย-วังน้ำเขียว” (คลิป)

ด้านนาย นพดล มากทอง โฆษกมูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊ก "มูลนิธิสภาเตือนภัยพิบัติแห่งชาติ" ได้บอกเล่าว่า " 1 พย. 63 วันนี้เมื่อปีพ.ศ.2532 พายุไต้ฝุ่น"เกย์"ลูกแรกเคลื่อนตัวเข้าประเทศไทยเริ่มก่อตัวบริเวณปลายแหลมญวณ"  วันนี้พายุไต้ฝุ่น "โคนี" จะเคลื่อนตัวเข้าสู่ฟิลิปปินส์ พายุ 2 ลูกนี้เป็นไต้ฝุ่นขนาดเล็ก แต่พลังเหลือร้าย มีพลังการทำลายระดับพายุซุปเปอร์ไต้ฝุ่น


 พายุโคนี ข้อมูล 1 พย. หากดูทิศทางก็มุ่งหน้ามาประเทศไทย แต่ขณะนี้อากาศเย็นได้ตรึงกำลังยึดพื้นที่ประเทศไทยไว้ได้แล้ว พายุ"โคนี" จึงมีโอกาสโอกาสสูงที่จะถูกขยี้บี้บดก่อนเข้ามาถึงภาคอีสาน เว้นแต่วันที่ 4-5 พย. อากาศเย็นจะอ่อนเปลี้ยเพลียแรง ถอยทัพกลับไป ภาคอีสานก็มีโอกาสถูกพายุ"โคนี" เคลื่อนเข้ามา   ...ถามว่าควรทำอย่างไร แนะนำว่า ให้ติดตาม วันที่ 2 พย. จะมีความชัดเจน