ตามที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)เมื่อวันที่ 13 และ 20 กรกฎาคม 2564 มีมติให้นายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 ใน 13 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือสีแดงเข้ม 9 ประเภทกิจการ ได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาจากการได้รับผลกระทบจากคำสั่งล็อกดาวน์
สำนักงานประกันสังคม จะโอนเงินเยียวยาเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชนเท่านั้น เริ่มโอนเงินรอบแรกในวันที่ 4 สิงหาคม 2564
ไทม์ไลน์โอนเงินเยียวยาให้นายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33
สำนักงานประกันสังคม จะโอนเงินให้ผู้ประกันตน ประกันสังคมมาตรา 33 เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้นายจ้างและผู้ประกันตน ม.33 ที่ได้รับผลกระทบจากการถูกปิดกิจการตามประกาศคำสั่งของ ศบค. ดังนี้
ทั้งนี้ สำหรับลูกจ้าง มาตรา 33 ในพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้มอีก 3 จังหวัดที่ประกาศเพิ่มเติม ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา จะดำเนินการโอนเงินในวันที่ 9 สิงหาคม 64 ต่อไป
ทั้งนี้ สำหรับนายจ้าง มาตรา 33 ในพื้นที่จังหวัดสีแดงเข้มอีก 3 จังหวัดที่ประกาศเพิ่มเติม ได้แก่ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และพระนครศรีอยุธยา จะดำเนินการโอนเงินในวันที่ 9 สิงหาคม 64 ต่อไป
นางสาวลัดดา แซ่ลี้ รองโฆษกสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ตามที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 และ 20 กรกฎาคม 2564 มีมติให้นายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา 33 ได้รับสิทธิรับเงินช่วยเหลือเยียวยาที่ได้รับผลกระทบจากคำสั่งล็อกดาวน์พื้นที่สีแดงเข้ม รวม 13 จังหวัด 9 ประเภทกิจการ
โดยมีผู้ประกันตนมาตรา 33 จำนวน 3.1 ล้านคน ที่มีสัญชาติไทย จะได้รับเงินเยียวยาจากรัฐบาลคนละ 2,500 บาท จ่ายครั้งเดียวโดยโอนผ่านบัญชีพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชนเท่านั้น
นายจ้าง จำนวน 176,619 ราย จะได้รับการเยียวยาจากรัฐบาลตามจำนวนลูกจ้างหัวละ 3,000 บาท สูงสุดลูกจ้าง ไม่เกิน 200 คน ซึ่งจะนับรวมลูกจ้างทั้งสัญชาติไทยและต่างด้าว นายจ้างบุคคลธรรมดาจะได้รับการโอนเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์เลขบัตรประชาชนเช่นกัน
ส่วนนายจ้างที่เป็นนิติบุคคลจะโอนเข้าบัญชีธนาคารตามที่ได้แจ้งไว้กับสำนักงานประกันสังคม โดยเงินจะเริ่มโอนเงินรอบแรกในวันที่ 4 สิงหาคม 2564 นี้
13 จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือสีแดงเข้ม ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี นครปฐม ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร พระนครศรีอยุธยา ชลบุรี ฉะเชิงเทรา สงขลา นราธิวาส ยะลา และปัตตานี
9 ประเภทกิจการ ได้แก่ 1.ก่อสร้าง 2.ที่พักแรมบริการด้านอาหาร 3.ศิลปะ ความบันเทิงและนันทนาการ 4.กิจกรรมบริการด้านอื่นๆ 5.สาขาขายส่งและการขายปลีก การซ่อมยานยนต์ 6.การขนส่งและสถานที่เก็บสินค้า 7.กิจกรรมการบริหารและบริการสนับสนุน 8.กิจกรรมวิชาชีพ วิทยาศาสตร์และกิจกรรมทางวิชาการ และ9.ข้อมูลข่าวสารและการสื่อสาร