จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ตลอดจนมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ของทางการ ส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี (SME) อย่างรุนแรง โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ห้องพัก เกสต์เฮ้าส์ สปา ภัตตาคาร และร้านอาหาร ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงและต่อเนื่อง
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จึงมอบหมายให้ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เป็นหน่วยร่วมดำเนินโครงการสนับสนุน SMEs รายย่อย ในการอนุมัติสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำวงเงินรวม 1,200 ล้านบาท เพื่อให้เอสเอ็มอีในกลุ่มธุรกิจดังกล่าว นำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน เสริมสภาพคล่อง ลงทุน ขยายกิจกรรม ปรับปรุง ซ่อมแซม หรือยกระดับมาตรฐานการให้บริการ
โดยทางธนาคารคิดอัตราดอกเบี้ยเพียง 1% ต่อปี ผ่อนนานสูงสุด 7 ปี ปลอดชำระคืนเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 1 ปี หลักประกัน กรณีบุคคลธรรมดา ใช้บุคคลที่น่าเชื่อถือค้ำประกัน ส่วนกรณีนิติบุคคล ใช้กรรมการผู้มีอำนาจแทนนิติบุคคลค้ำประกัน
นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ย้ำว่าเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ต้องการให้เอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบโดยตรง สามารถเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำพิเศษได้สะดวก เหมาะสมกับสถานการณ์เร่งด่วน สสว.จึงได้ปรับปรุงกระบวนการ โดยใช้เกณฑ์พิจารณาจากหลักฐานการเสียภาษีในปี 2563 หรือ 2562 ที่ผ่านมา ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกลุ่มเป้าหมายเข้าถึงแหล่งทุนได้ง่ายขึ้น
สำหรับ คุณสมบัติของผู้ยื่นกู้ในโครงการนี้ มีดังนี้ คือ
ต้องเป็นสมาชิก สสว. ส่วนกรณียังไม่ได้ขึ้นทะเบียนกับ สสว. สามารถขอขึ้นทะเบียนก่อนได้ที่ (http://members.sme.go.th/newportal/) โดยต้องเป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีกลุ่มรายย่อย (Micro) และขนาดย่อม (Small) ตามนิยามของ สสว.
ประเภทของธุรกิจที่สามารถยื่นกู้
ต้องอยู่ใน กลุ่มธุรกิจโรงแรม ห้องพัก เกสต์เฮ้าส์ และธุรกิจสปาที่ตั้งอยู่ในโรงแรม ห้องพัก เกสต์เฮาส์ ใน 10 จังหวัดพื้นที่นำร่องเปิดการท่องเที่ยว ประกอบด้วย 1.ภูเก็ต 2.กระบี่ 3.พังงา 4.สุราษฎร์ธานี 5.เชียงใหม่ 6.ชลบุรี 7.เพชรบุรี 8.ประจวบคีรีขันธ์ 9.บุรีรัมย์ และ 10.กรุงเทพมหานคร หรือที่จะมีประกาศเพิ่มเติม
รวมถึง กลุ่มธุรกิจภัตตาคาร ร้านอาหาร ใน 29 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ตาม พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ฉบับล่าสุด ประกอบด้วย
1. กรุงเทพมหานคร 2. กาญจนบุรี 3. ชลบุรี 4.ฉะเชิงเทรา 5. ตาก 6. นครปฐม 7. นครนายก 8. นครราชสีมา 9. นราธิวาส 10. นนทบุรี 11. ปทุมธานี 12. ประจวบคีรีขันธ์ 13. ปราจีนบุรี 14. พระนครศรีอยุธยา 15.เพชรบุรี 16. ปัตตานี 17. เพชรบูรณ์ 18. ยะลา 19. ระยอง 20. ราชบุรี 21. ลพบุรี 22. สงขลา 23. สิงห์บุรี 24. สมุทรปราการ 25. สมุทรสงคราม 26. สมุทรสาคร 27. สระบุรี 28. สุพรรณบุรี และ 29. อ่างทอง หรือที่จะมีประกาศเพิ่มเติม
อีกทั้งต้องไม่เคยได้รับความช่วยเหลือเงินทุนในโครงการพลิกฟื้นฯ โครงการฟื้นฟูฯ หรือกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ รวมถึงต้องไม่เป็นหนี้ NPLs ไม่ถูกดำเนินคดี และไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
วงเงินกู้
วงเงินกู้สำหรับบุคคลธรรมดา พิจารณาจากการชำระภาษี ภ.ง.ด.90 ในปี 2562 หรือ 2563 ที่สูงกว่า และความเป็นเจ้าของสถานประกอบการ สูงสุดไม่เกิน 300,000 บาท
ช่องทางยื่นกู้
ผู้ประกอบการที่สนใจสามารถแจ้งความประสงค์ยื่นกู้ได้ผ่านช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
1.ยื่นกู้ผ่านช่องทางออนไลน์ โดยการสแกน QR Code ในโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์
2.คลิก https://qrgo.page.link/VF6Ka
3.ยื่นผ่านเว็บไซต์ของ SME D Bank (https://www.smebank.co.th/)
4.ใช้ช่องทาง Line OA : SME Development Bank
5. ยื่นผ่านแอปพลิเคชัน : SME D Bank
ระยะเวลาเปิดรับการยื่นกู้
ตั้งแต่เวลา 13.00 น. ของวันที่ 11 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป จนกว่าจะเต็มวงเงิน โดยใช้เกณฑ์มาก่อนได้ก่อน (first come first serve) หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ธนาคารจะติดต่อกลับ เพื่อดำเนินการในขั้นตอนต่อไป