รศ.นพ.เมธี วงศ์ศิริสุวรรณ ผู้ช่วยเลาธิการแพทยสภา โพสข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว "Methee Wong" โดยระบุว่า
SV+SV + "AZ 0.1 ID"
PROBLEM
m-RNA ใหม่มากกกก แถมยังไม่รู้ว่า long termจะมีผลอะไรหรือไม่
Astra แม้จะไม่ใหม่มาก แต่ก็ไม่นานพอแบบ วัคซีนเชื้อตายที่ทราบว่าปลอดภัยมาก ที่สำคัญเห็นหลายคนต้องลาป่วย2-3 วันล่วงหน้าก่อนฉีด เพราะบางคนไข้ขึ้นสูง ปวดเมื่อยหนาวสั่น ต้องหยุดงานหลังฉีด
Sinovac ปลอดภัยที่สุด แต่evidence basedปัจจุบัน คือรองรับ deltaไม่ได้
Evidence basedจาการทำงานจริงล่าสุดคือ..ฉีดvaccineไม่ว่ายี่ห้ออะไรก็ตาม..อาจติดเชื้อได้ แต่ยังไม่เห็นใครที่ฉีดวัคซีนครบตามเกณฑ์แล้วปวยหนัก ..เสียอย่างเดียวคือ ต้องหยุดงานรักษาตัวและกักตัว และอาจส่งผ่านเชื้อให้คนอื่นได้
ANSWER
ทางออกแบบครึ่งทาง ฉีดastra ..boostเข็มสาม
แต่...
แทนที่จะฉีด astra 0.5 ml IM ก็เปลี่ยนเป็น 0.1 ml ID อย่างน้อยก็ลดสิ่งแปลกปลอมที่ะเข้าร่างกายลงได้ 5 เท่า.
ทำใจไว้ล่วงหน้าว่า ..หากภูมิไม่ขึ้น...ก็ค่อยไปฉีดแบบเข้ากล้าม หรือไปฉีดพวก m-RNA เลย
หมายเหตุ
IM(ฉีดเข้ากล้ามเนื้อ) ปลายเข็มฝังลึกเข้าไปในชั้นกล้ามเนื้อ
ID(ฉีดเข้าในชั้นผิวหนัง) ปลายเข็มฝังตื้น ๆที่ผิวหนังชั้นนอกลึกไม่เกิน2-3 มม.(คล้าย ๆ เข็มสะกิด) วิธีนี้มีใช้่กันมานานแล้ว แต่ฉีดยากกว่าการฉีดเข้ากล้าม เพราะต้องปักเข็มตื้นมาก ๆ ..แต่ข้อดีคือแทบไม่มีความรู้สึกเจ็บเลย ..มักใช้กับการทดสอบภูมิแพ้ หรือวัณโรค... เหตุที่แทบไม่รู้สึกเจ็บเลย เมื่อเทียบกับการฉีดเข้ากล้าม เพราะ
(๑) เข็มที่ใช้จะขนาดเล็กกว่ามาก ปลายเข็มจะมีขนาดประมาณ 0.1 มม.
(๒) ปักเข็มตื้นมากไม่เกิน 1-2 มม.
(๓) ความที่เข็มเล็กและปักตื้น..ทำให้ปริมาณที่ใช้จะน้อยกว่ามาก..ผลคือยิ่งแทบไม่รู้สึกเจ็บขณะเดินยา
ส่วนเหตุที่ผลข้างเคียงหลังฉีดน้อยกว่ามากเพราะ
(๑) ยาจะดูดซึมช้ามากที่สุดเมื่อเทียบกับการฉีดวิธีอื่น (ฉีดเข้าเส้นเลือด ฉีดใต้ผิวหน้ง ฉีดในกล้ามเนื้อ)..จึงทำให้ยาค่อย ๆ ซึมเข้าร่างกายอย่างช้า ๆ
(๒) ปริมาณยาใช้น้อยกว่าวิธีอื่นมาก
(๓) ด้วยเหตุดังกล่าว...หากเกิดการแพ้วัคซีน...คนไข้จะค่อย ๆ มีอาการ..เพราะยาดูดซึมช้ามาก...แพทย์มีเวลาเหลือเฟือในการรับมือ
RESULT
วันแรกหลังฉีด..ปกติดี ไม่นับมีปุ่มนูนแดงที่ไหล่ อันเป็นผลจากการฉีด ID
วันรุ่งขึ้นเช้า ปวดเมื่อยคล้ายนอนหลับไม่สนิท บ่ายตัวรุม ๆ ตกเย็นปกติ
ผล neutralizing Ab (NTAb ภูมิต้านทานในเชิงคุณภาพ) ก่อนฉีด 47% (โอกาสที่ร่างกายจะกำจัดโควิดเมื่อหลุดรอดเข้าไปในตัวเรา อยุ่ที 47%)
หลังได้ 3rd Boosterเป็น AZ 0.1 ID 2 สัปดาห์...99% (ร่างกายมีความสามารถกำจัดไวรัสได้ 99%
พูดง่าย ๆคือ โอกาสติดเชื้อและป่วยแสดงอาการน้อยกว่า 1% ซึ่งรวมถึงโอกาสการเป็นพาหะก็ลดลงด้วย)
ปล. ส่วนการตรวจแบบเชิงปริมาณ ..ที่รพ.ส่วนใหญ่ทำกันอยู่นั้น(ซึ่งบอกแต่ปริมาณ แต่อาจไม่ได้ผลจริงในการป้องกันตามตัวเลขที่สูง) ..คงไม่ต้องไปทำอีก เพราะ NTAbมีความน่าเชื่อถือกว่าอยู่แล้ว
เท่าที่ทราบหลายคนที่ฉีดวิธีนี้ ภูมิปกป้อง (Neurtralizing)สูงมากกกกทุกคน
อาการข้างเคียงหลังฉีดน้อยมากกกกกก
ถ้าผลวิจัยเป็นทางการออกมา Thiravat Hemachudha Kate Sripratak ( also special thanks to research team ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha Kate Sripratak )....รัฐจะมีวัคซีนสำหรับboosterเพิ่มขึ้น ๕ เท่าทันที ...แถมไม่ต้องง้อm-RNAอีกต่างหาก เพราะAZ ผลิตได้ในบ้านเราแล้ว..... และน่าจะยืดระยะเวลาความเสี่ยงจากการได้รับวัคซีน m-RNA vaccine ได้อีกระยะ ..จนกว่าจะมั่นใจเรื่อง long term sequelae ซึ่งต้องใช้เวลาเป็นปี
การฉีดนี้เป็นการฉีดโดยสมัครใจ
ต่อจากนี้ก็รอดูว่า ร่างGod+Ultra Instinct จะอยู่นานแค่ไหน และจะสู้กับ Frieza ในร่างGod หรือร่างท่ีจะกลายพันธ์ต่อไปอีกได้หรือไม่
สำหรับสถานการณ์การฉีดวัคซีนโควิด-19 (Covid-19) ในประทศไทยนั้น "ฐานเศรษฐกิจ" ติดตามข้อมูลการรายงานจากศูนย์ข้อมูลโควิด-19 กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ซึ่งเผยแพร่ข้อมูลสถิติการฉีดระหว่างวันที่ 28 ก.พ.-11 ส.ค. 64 พบว่า มีการฉีดสะสมแล้ว 22,288,819 โดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 17,068,105 ราย ฉีดครอบ 2 เข็ม จำนวน 4,826,641 ราย และฉีดเข็มที่ 3 จำนวน 394,073 ราย