วันที่ 17 สิงหาคม 2564 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เแถลงมติครม.ว่า ครม.อนุมัติกรอบวงเงินจำนวน 9.3 พันล้านบาท เพื่อชำระค่าสั่งซื้อวัคซีนโควิด ยี่ห้อไฟเซอร์ จำนวน 20 ล้านโดส ที่เคยลงนามไปแล้วก่อนหน้านี้
โดยกรอบวงเงินจำนวนเงิน 9.3 พันล้านบาท ประกอบด้วยค่า วัคซีนจำนวน 8.4 พันล้าน และค่าบริการจัดการ 933 ล้านบาท โดยจะมีการส่งมอบในช่วงไตรมาส 4 ที่จะถึงปลายเดือนกันยายนถึงตุลาคมนี้
นายอนุชา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ครม.ยังเห็นชอบให้จัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์เพิ่มเติมอีก 10ล้านโดส โดยให้กรมควบคุมโรค เป็นผู้ลงนามกับไฟเซอร์ ดังนั้น จะทำให้การจัดหาวัคซีน mRNA จะเป็นเจำนวนพิ่มเติมอีก 10 ล้านโดส ในไตรมาส 4
"ดังนั้นรวมแล้วจะมีวัคซีนไฟเซอร์จะเข้ามา 30 ล้านโดสในไตรมาสที่ 4" นายอนุชา ระบุ
โดยในรายละเอียด นายอนุชา กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติเห็นชอบโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับบริการประชากรในประเทศไทย เพิ่มเติม จำนวน 20,001,150 โดส (Pfizer) กรอบวงเงินจำนวน 9,372.7645 ล้านบาท แบ่งเป็น
ช่วงระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่ สิงหาคม-ธันวาคม เพื่อจัดหาวัคซีนโควิด-19 สำหรับสร้างภูมิคุ้มกันให้ประชาชน โดยกลุ่มเป้าหมายสามารถปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าโครงการจัดหาวัคซีนโควิด-19 เพิ่มเติม (Pfizer) จำนวน 20,001,150 โดส ของกรมควบคุมโรค ตามนโยบายรัฐบาลที่จะจัดหาวัคซีนให้แก่ประชาชน 100 ล้านโดส ภายในสิ้นปี 2564 สำหรับสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค
ประกอบกับ ขณะนี้มีผู้ผลิตวัคซีนโควิด-19 ที่ใช้เทคโนโลยีในการผลิตที่หลากหลาย รัฐบาลจึงเห็นควรให้มีจัดหาวัคซีนที่มีเทคโนโลยีการผลิตที่แตกต่างกันให้สามารถครอบคลุมการกลายพันธุ์ของไวรัส โควิด-19 ที่มีอยู่ทั่วโลกทั้งในปัจจุบันและในอนาคต ซึ่งจะช่วยให้สามารถสร้างภูมิคุ้มกันหมู่แก่คนไทยได้อย่างแท้จริง ลดอัตราการป่วย/การเสียชีวิต และลดค่าใช้จ่ายภาครัฐในการดูแลรักษาผู้ป่วยจากโรค COVID-19
รวมทั้งลดผลกระทบ/พื้นฟูสภาพเศรษฐกิจและสังคมให้กลับสู่สภาวะปกติได้โดยเร็ว
นายอนุชา กล่าวอีกว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ยังรับทราบการจัดสั่งซื้อวัคซีนไฟเซอร์เพิ่มเติมอีก 10 ล้านโดส พร้อมมอบให้กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขได้ลงนามกับผู้แทนบริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัดและไบออนเทค ทำให้การจัดซื้อวัคซีนไฟเซอร์ซึ่งเป็นวัคซีนชนิด mRNA เพิ่มจำนวนเป็น 30 ล้านโดส ซึ่งจะเริ่มทยอยจัดส่งในไตรมาสที่ 4 ของปี 2564 นี้
นายกรัฐมนตรีได้ขอบคุณทุกหน่วยงานที่สนับสนุนให้สามารถจัดหาวัคซีนไฟเซอร์ 30 ล้านโดส รวมถึงวัคซีนเทคโนโลยีต่างๆ มาฉีดให้แก่ประชาชน และขอให้มีการบริหารจัดการกระจายวัคซีนให้ดีด้วยแผนที่ชัดเจน รวมถึงการให้ข้อมูลการจัดสรรแก่ประชาชนต่อไป
การทำข้อตกลงเพื่อจัดหาวัคซีนไฟเซอร์ในครั้งนี้ จะทำให้ไทยมีวัคซีนโควิด-19 กระจายให้ประชาชนเกือบครบทุกชนิด ทั้งในส่วนของ mRNA ของไฟเซอร์ และโมเดอร์นา ชนิดเชื้อตาย ของซิโนแวคและซิโนฟาร์ม ชนิดไวรัลเวกเตอร์ ของแอสตร้าเซนเนก้า
ทั้งนี้ วัคซีนไฟเซอร์ ได้รับการขึ้นทะเบียนแบบมีเงื่อนไขจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2564 และเป็นวัคซีนที่ขึ้นทะเบียนให้ใช้สำหรับผู้ที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไปได้