ภูเก็ต แซนด์บล็อกซ์โควิด-19 ระบาดต่อเนื่อง หมอธีระห่วงพื้นที่ใกล้เคียง

19 ก.ย. 2564 | 03:55 น.

หมอธีระเผยภูเก็ต แซนด์บล็อกซ์โควิด-19 ยังระบาดต่อเนื่อง ห่วงนครนครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี กระบี่ได้รับผลกระทบ ระบุหากไม่หยุดคนให้นิ่ง ปูพรมตรวจ คงจะยากที่จะควบคุม

รายงานข่าวระบุว่า รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความว่า
สถานการณ์ทั่วโลก 18 กันยายน 2564
สิงคโปร์ทะลุพันคนไปเรียบร้อยแล้ว เป็นครั้งแรกในรอบปีกว่า ครั้งสุดท้ายคือ 20 เมษายน 2563 
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 394,950 คน รวมแล้วตอนนี้ 228,882,763 คน ตายเพิ่มอีก 6,443 คน ยอดตายรวม 4,698,817 คน
5 อันดับแรกที่มีจำนวนติดเชื้อต่อวันสูงสุดคือ อเมริกา อินเดีย สหราชอาณาจักร ตุรกี และฟิลิปปินส์ 
อเมริกา ติดเชื้อเพิ่ม 44,128 คน รวม 42,844,035 คน ตายเพิ่ม 600 คน ยอดเสียชีวิตรวม 691,313 คน อัตราตาย 1.6% 
อินเดีย ติดเพิ่ม 31,121 คน รวม 33,447,010 คน ตายเพิ่ม 306 คน ยอดเสียชีวิตรวม 444,869 คน อัตราตาย 1.3% 
บราซิล ติดเพิ่ม 22,789 คน รวม 21,230,325 คน ตายเพิ่ม 764 คน ยอดเสียชีวิตรวม 590,508 คน อัตราตาย 2.8%
สหราชอาณาจักร ติดเพิ่ม 30,144 คน ยอดรวม 7,400,739 คน ตายเพิ่ม 164 คน ยอดเสียชีวิตรวม 135,147 คน อัตราตาย 1.8% 

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์
รัสเซีย ติดเพิ่ม 20,329 คน รวม 7,254,754 คน ตายเพิ่ม 799 คน ยอดเสียชีวิตรวม 197,425 คน อัตราตาย 2.7% 
อันดับ 6-10 เป็น ฝรั่งเศส ตุรกี อิหร่าน อาร์เจนติน่า และโคลอมเบีย ติดกันหลักพันถึงหลายหมื่น
หากรวมทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ พบว่ามีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 89.55 ของจำนวนติดเชื้อใหม่ทั้งหมดต่อวัน
แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นหลักร้อยถึงหลักพัน 
แถบตะวันออกกลางส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักร้อยถึงหลักพัน ยกเว้นอิหร่านติดเพิ่มหลักหมื่นอย่างต่อเนื่อง 
ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย ติดเพิ่มกันหลักหมื่น

ญี่ปุ่น เวียดนาม เมียนมาร์ อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ ติดกันหลักพัน กัมพูชา และลาว ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน และนิวซีแลนด์ ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่ฮ่องกง และไต้หวัน ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ
Living with COVID-19 ของสิงคโปร์
แม้จะฉีดวัคซีนไปกว่า 80% และประกาศนโยบายที่จะอยู่ร่วมกับโควิดไปไม่นานนัก จำนวนการติดเชื้อใหม่ก็พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจนล่าสุด 1,009 คน สูงเกินพันเป็นครั้งแรกในรอบปีกว่า 
ครั้งสุดท้ายคือ 20 เมษายนปีที่แล้ว
จำนวนติดเชื้อเพิ่มขึ้น 5 เท่าภายในเวลาราว 2 สัปดาห์ 
สถานการณ์ของไทยเรา

สถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่สูงเป็นอันดับ 9 ของโลก อันดับ 5 ของเอเชีย
และหากรวม ATK ก็จะเขยิบขึ้นเป็นอันดับ 8 ของโลก อันดับ 4 ของเอเชีย
กล่องทราย
การระบาดยังคงเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเพิ่มอีก 243 คน 
จำนวนเตียงว่างเหลืออีกราว 10%
ในขณะที่พื้นที่ใกล้เคียงก็น่าเป็นห่วง ทั้ง นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ กระบี่
คงต้องเอาใจช่วยให้ควบคุมได้โดยเร็ว
ด้วยการระบาดเช่นนี้ หากไม่หยุดคนให้นิ่ง ปูพรมตรวจ คงจะยากที่จะควบคุม ย้ำอีกครั้งว่าวัคซีนที่ใช้นั้นหวังผลในแง่ลดโอกาสป่วย รุนแรง หรือเสีียชีวิต ซึ่งเป็นผลระดับบุคคลมากกว่าที่จะเกิดผลในระดับสังคมในระยะสั้น
หมอธีระ ระบุต่อไปอีกว่า มองไปยาวๆ
การปรับรูปแบบการดำเนินชีวิต รวมถึงการค้าขาย บริการต่างๆ ให้เน้นความปลอดภัยไปในระยะยาว จำเป็นต้องทำอย่างยิ่ง

นอกจากนี้ สิ่งสำคัญอีกเรื่องคือ การที่่ทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูง ด้วยวิธีการฉีดตามมาตรฐานสากล ที่ผ่านการพิสูจน์ทั้งเรื่องความปลอดภัย การกระตุ้นภูมิคุ้มกันและระยะเวลาที่คงอยู่ของภูมิคุ้มกัน รวมถึงผ่านการพิสูจน์ประสิทธิภาพในการป้องกันโรค ลดความรุนแรง และลดอัตราตาย  แต่จำเป็นต้องทำหลายทางพร้อมกัน ทั้งผ่านรัฐสวัสดิการ และให้ประชาชนสามารถเลือกรับเลือกใช้เลือกเข้าถึงได้เองผ่านภาคส่วนเอกชน สถาบันการแพทย์/การศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาสังคมอื่นๆ
และสุดท้ายคือ การส่งเสริมให้ประชาชนทั้งผู้ใหญ่และเด็กมีความรู้เท่าทัน สามารถมีทักษะในการเข้าถึงแหล่งข้อมูลที่ถูกต้อง ค้นหา ทำความเข้าใจเรื่องต่างๆ เพื่อติดตามสถานการณ์โรคและความรู้ที่จำเป็นเกี่ยวกับการดูแลรักษา การป้องกันตัว ป้องกันโรคได้อย่างทันกาล ก็จะทำให้มีสมรรถนะในการรับมือกับภัยคุกคามในรูปแบบต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เห็นได้ชัดเจนว่า สองปีที่ผ่านมานี้มีประชาชนจำนวนไม่น้อยที่ทราบข้อมูลที่ทันสมัยจากต่างประเทศ และได้รับการพิสูจน์เป็นที่ยอมรับระดับสากล และตัดสินใจประพฤติปฏิบัติอย่างเหมาะสมสำหรับตนเองและครอบครัวได้ ถือเป็นสัญญาณที่ดีมากทีเดียว    
สำหรับสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 (Covid-19) ในประเทศไทย วันที่ 19 กันยายน 64 นั้น "ฐานเศรษฐกิจ" ติดตามรายงานจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. พบว่า ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 13,576 ราย มาจาก ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 13,181 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 395 ราย  ผู้ป่วยสะสม(ตั้งแต่ 1 เม.ย.64) 1,447,614 ราย  เสียชีวิตเพิ่ม 117 ราย หายป่วย 12,492 ราย กำลังรักษา 131,095 ราย หายป่วยสะสม(ตั้งแต่ 1 เม.ย.64) 1,302,593 ราย