วันนี้ (5 ตุลาคม 2564) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมครม.มีมติเห็นชอบในหลักการตามโครงการจ้างแพทย์ พยาบาลวิชาชีพ และสายงานบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขที่จำเป็น เพื่อรองรับสถานการณ์โรคติดเชื้อโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 5,000 อัตรา ระยะเวลาการจ้างไม่เกิน 1 ปีกรอบวงเงินรวม 4,335 ล้านบาท แบ่งเป็น แพทย์ 504 อัตรา พยาบาลวิชาชีพ 3,945 อัตรา นักวิชาการสาธารณสุขและบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขที่จำเป็น รวมกัน 551 อัตรา โดยมอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุขพิจารณากำหนดจำนวนกรอบอัตรากำลังที่จะจ้างงานภายใต้โครงการให้เป็นไปตามความเหมาะสมจำเป็น และสอดคล้องกับข้อเท็จจริงในแต่ละพื้นที่ และใช้ค่าใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายงบกลาง ซึ่งจะช่วยให้การดำเนินโครงการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ การจ้างแพทย์ พยาบาลวิชาชีพ และสายงานบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขที่จำเป็น เป็นกรณีพิเศษ 1 ปีนี้ เพื่อรองรับภารกิจการดำเนินงานในช่วงโควิด 19 ทั้งการตรวจหาเชื้อโควิด 19 การดูแลรักษา และการฉีดวัคซีนโควิด 19 ที่เป็นวาระแห่งชาติที่ต้องเร่งสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคโควิด 19 ด้วยวัคซีน มีเป้าหมายฉีดครบ 2 เข็มให้ได้ครอบคลุมร้อยละ 70 ในสิ้นปี 2564
ซึ่งการจะบรรลุเป้าหมายได้ นอกจากความพร้อมทั้งสถานที่ วัสดุอุปกรณ์การบริการจัดการที่รวดเร็ว ยังต้องมีความพร้อมของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ต้องปฏิบัติงานทั้งในเวลาและนอกเวลาราชการ ซึ่งเป็นภารกิจนอกเหนือจากการปฏิบัติงานประจำ ต้องใช้บุคลากรจำนวนมาก จึงเห็นควรพิจารณาการจ้างงานเพิ่มและจัดหาค่าตอบแทน