นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานและหน่วยงานในสังกัดได้ดำเนินการลงพื้นที่ ณ วัดสำโรง อำเภอเมืองนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วม และมอบถุงยังชีพจำนวน 900 ชุดให้กับประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้ประสบภัย 10 ตำบล ในพื้นที่อำเภอนครชัยศรี ได้แก่ ตำบลวัดสำโรง ลานตากฟ้า บางแก้วฟ้า สัมปทวน ดอนแฝก ห้วยพลู ไทยาวาส งิ้วราย วัดแค และวัดละมุด ซึ่งเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้นก่อน
ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวเป็นภารกิจต่อเนื่องในการติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของพายุเตี้ยนหมู่ โดยหลังจากนี้ จะมีการประสานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบูรณาการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างเร่งด่วน รวมถึงสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการสำรวจความเสียหายทั้งบ้านเรือน พื้นที่ประกอบอาชีพ รวมถึงความเสียหายอื่นๆ เพื่อเตรียมแผนฟื้นฟูให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตโดยเร็วที่สุด
"กระทรวงพลังงานเป็นหนึ่งในหน่วยงานที่ได้ขับเคลื่อนความช่วยเหลือ โดยได้ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และหน่วยงานในสังกัดกระทรวงพลังงาน ลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนในจังหวัดลพบุรีไปแล้วก่อนหน้านี้ และเร่งดำเนินการในพื้นที่อื่นๆ อีกต่อไป"
นายสุรศักดิ์ เจริญศิริโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครปฐม กล่าวว่า จังหวัดนครปฐมมีพื้นที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์น้ำท่วม จำนวน 27 ตำบล ของ 3 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนครชัยศรี บางเลน และสามพราน มีประชาชนได้รับผลกระทบรวมทั้งสิ้น 3,025 ครัวเรือน สำหรับอำเภอนครชัยศรี ได้รับผลกระทบจำนวน 1,459 ครัวเรือน ใน 14 ตำบล ซึ่งภาพรวมขณะนี้สถานการณ์น้ำของจังหวัดนครปฐมยังคงต้องเฝ้าระวังผลกระทบจากการระบายน้ำลงสู่แม่น้ำท่าจีนผ่านจังหวัดนครปฐม ที่อาจจะส่งผลกระทบต่อพื้นที่นอกแนวคันกั้นน้ำ
อย่างไรก็ตาม ทางจังหวัด อำเภอ ส่วนราชการในพื้นที่ รวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ได้เสริมแนวคันกั้นน้ำ และติดตั้งเครื่องสูบน้ำเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ พร้อมติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ ที่สะพานข้ามแม่น้ำท่าจีน และคลองลัด จำนวน 6 จุด รวม 57 เครื่อง เพื่อเร่งผลักดันน้ำลงทะเล นอกจากนี้ ยังทำการสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบต่อไป