ทำความรู้จัก 4 วัคซีนสัญชาติไทย  รัฐพร้อมหนุนงบพัฒนา 4.8 พันล้าน

27 พ.ย. 2564 | 23:08 น.
อัปเดตล่าสุด :29 พ.ย. 2564 | 15:06 น.

รัฐบาลพร้อมหนุน 4 วัคซีนป้องกันโควิด-19 สัญชาติไทย เสริมความมั่นคงด้านสาธารณสุขระยะยาว วัคซีนทั้ง 4 อยู่ในขั้นตอนการทดสอบในมนุษย์ มีวัคซีนอะไรบ้างเราตามไปดูกัน

สืบเนื่องจากการประชุม ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 (ศบค.) เมื่อวันที่ 26 พ.ย.ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้ติดตามความก้าวหน้า การวิจัยวัคซีนในประเทศไทย ซึ่งได้รับการรายงานว่า ขณะนี้ทั้ง 4 วัคซีนกำลังอยู่ในขั้นทดสอบในมนุษย์ และได้รับการสนับสนุนงบประมาณเพื่อใช้ในการพัฒนาเป็นระยะ รวมวงเงิน 4,800 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ วัคซีนสัญชาติไทยทั้ง 4 ประกอบด้วย

 

1. วัคซีน NDV-HXP-S

พัฒนาโดยองค์การเภสัชกรรม (อภ.) ร่วมกับมหาวิทยาลัยมหิดล

ได้รับงบประมาณจากรัฐบาลผ่านสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (สวช.) แล้ว 45.88 ล้านบาท

ทดสอบในมนุษย์ระยะที่ 2 แล้วตั้งแต่ 16 ส.ค. 64 คาดว่าจะทราบผลภายในเดือนธ.ค.นี้ และอยู่ระหว่างทำคำของบประมาณ เพื่อรับการสนับสนุนสำหรับการทดสอบระยะที่ 3

2. วัคซีน Chula-Cov19

พัฒนาโดยศูนย์วิจัยวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ได้รับงบประมาณจากรัฐบาลผ่านสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (สวช.) จำนวน 375 ล้านบาท

ทดสอบในมนุษย์ระยะที่ 2 เริ่ม ส.ค. 64 คาดว่าจะทราบผลภายในเดือนธ.ค.นี้ และสำหรับการทดสอบทางคลินิกระยะที่ 3 และการผลิตเพื่อขึ้นทะเบียนวัคซีนเพื่อใช้ในภาวะฉุกเฉิน ครม.ได้อนุมัติงบประมาณจาก พ.ร.ก.เงินกู้ฯ กรอบวงเงิน 2,316 ล้านบาท เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ภาพจาก https://www.chula.ac.th/

 

3. วัคซีน Baiya SARS-CoV-2 Vax

พัฒนาโดยบริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม ซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพ ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ได้รับงบประมาณจาก พ.ร.ก.เงินกู้ฯ 160 ล้านบาท ในช่วงต้น

ขณะนี้อยู่ในช่วงทดสอบในมนุษย์ ระยะที่ 1 เริ่ม ตั้งแต่ ต.ค. 64 และล่าสุด ครม.ได้อนุมัติกรอบวงเงิน 1,309 ล้านบาท จากพ.ร.ก.เงินกู้ฯ เพื่อใช้ในการวิจัยและพัฒนาวัคซีนในส่วนของการทดสอบในมนุษย์ระยะที่ 3 ด้วย

4. วัคซีนโควิเจน

พัฒนาโดยบริษัท ไบโอเนท-เอเชีย

ได้รับงบประมาณจาก พ.ร.ก.เงินกู้ฯ แล้ว 650 ล้านบาท

ได้ทำการสอบในมนุษย์ ระยะที่ 1 แล้วตั้งแต่วันที่ 25 มิ.ย. 64 เพื่อศึกษาความปลอดภัยและการกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ขณะนี้ อยู่ระหว่างการเตรียมการทดสอบในระยะที่ 2

 

 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญ และพร้อมสนับสนุนงบประมาณในการวิจัยและพัฒนาวัคซีนสัญชาติไทยในทุกขั้นตอน ตั้งแต่กระบวนการ R & D การทดสอบประสิทธิภาพ การขึ้นทะเบียน เพื่อให้สามารถนำมาใช้ได้ครบวงจร เสริมความมั่นคงทางวัคซีนของประเทศ ถือเป็นอีกความหวังในการควบคุมการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 และเป็นการเพิ่มศักยภาพด้านการจัดการสาธารณสุขของประเทศในระยะยาว