รายงานข่าวระบุว่า รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความว่า
4 ธันวาคม 2564 ทะลุ 265 ล้านไปแล้ว
เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 671,978 คน ตายเพิ่ม 7,081 คน รวมแล้วติดไปรวม 265,126,868 คน เสียชีวิตรวม 5,257,175 คน
5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุด ยังเป็นเช่นเดิมคือ อเมริกา เยอรมัน สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และรัสเซีย
จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งรวมกันคิดเป็น 94.04% ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็น 94.22%
ล่าสุดจำนวนติดเชื้อใหม่จากทวีปยุโรปนั้นมากถึง 62.66% ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็น 58.96%
เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปครอง 8 ใน 10 อันดับแรก และ 15 ใน 20 อันดับแรกของโลก
สำหรับสถานการณ์ไทยเรา
เมื่อวานติดเชื้อเพิ่ม 4,912 คน สูงเป็นอันดับ 24 ของโลก
หากรวม ATK อีก 1,646 คน จะขยับเป็นอันดับ 20 ของโลก
ยอดรวม ATK จะเป็นอันดับ 3 ของเอเชีย รองจากตุรกี และเวียดนาม
แอฟริกาใต้
ล่าสุดติดเพิ่มสูงถึง 16,055 คน เพิ่มจากเมื่อวาน 39%
จำนวนติดเชื้อใหม่ต่อวันของแอฟริกาใต้เพิ่มขึ้นสองเท่า (doubling time) โดยใช้เวลาแค่ 1-2 วันในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา
เรื่องการป่วยนั้น ชัดเจนว่าตอนนี้มีผู้ติดเชื้อที่มีอาการเข้ารับการดูแลรักษาในโรงพยาบาลมากขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้รายงานว่าอาการน้อย แต่คงต้องติดตามต่อไปอีก 2-3 สัปดาห์ว่าการป่วยรุนแรงและเสียชีวิตจะถีบตัวสูงขึ้นหรือไม่
อัพเดต Omicron (โอไมครอน)
ล่าสุดกระจายไปทั่วโลก ทุกทวีป ราว 50 ประเทศแล้ว
ในขณะที่อเมริกา มี 10 รัฐที่รายงานว่าพบเคสแล้ว ได้แก่ แคลิฟอร์เนีย นิวยอร์ก มินนิโซต้า โคโลราโด ฮาวาย เนบราสก้า ยูทาห์ เพนซิลวาเนีย แมรี่แลนด์ และมิสซูรี่ ถือว่ามีการขยายวงตรวจพบมากขึ้นอย่างรวดเร็ว
สำหรับไทยเรา
งานวิจัยต่างประเทศเคยประเมินในช่วงสิงหาคมที่ผ่านมาว่า หากเปิดการเดินทางทางอากาศรับคนเดินทางจากต่างชาติเข้ามา ความเสี่ยงที่จะมีการหลุดรอดของผู้ติดเชื้อเข้ามาในประเทศอยู่ที่ 0.204% หรือ 1000 คน จะหลุดมา 2 คน
แม้สถานการณ์จริงจะมีปัจจัยอีกหลายเรื่องที่จะส่งผลต่อเรื่องดังกล่าว แต่ผลการศึกษานั้นก็ช่วยย้ำเตือนเราทุกคนว่าหลังจากเปิดประเทศมาแล้ว ความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
Omicron จะมาแน่นอน ไม่ช้าก็เร็ว
สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดคือ มีความตระหนัก รับรู้สถานการณ์ และป้องกันตัวอย่างเต็มที่
ใส่หน้ากาก และเว้นระยะห่างจากคนอื่นเกินหนึ่งเมตร
ท่ามกลางสถานการณ์โลกเช่นนี้ รัฐบาลจำเป็นจะต้องทบทวนนโยบายและมาตรการที่เกี่ยวข้อง ขันน็อตระบบตรวจคัดกรองโรค ระยะเวลากักตัว ระบบติดตามตัว จำกัดโควตต้าการเดินทางเข้าประเทศ และลงทุนขยายศักยภาพบริการตรวจคัดกรองโรคมาตรฐานให้แก่ประชาชนทุกคน ให้สามารถเข้าถึงได้ง่าย ครอบคลุมทุกพื้นที่ และไม่มีค่าใช้จ่าย มิฉะนั้นเวลาเกิดระบาดของ Omicron ขึ้นมา จะเอาไม่อยู่
สำหรับสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 (covid-19) ในประเทศไทย วันที่ 4 ธันวาคม 2564 นั้น "ฐานเศรษฐกิจ" ติดตามข้อมูลจากศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือศบค. พบว่า มียอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นรวม 5,896 ราย ผู้ป่วยสะสม(ตั้งแต่ 1 เม.ย.64) 2,107,674 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 37 ราย หายป่วย 5,666 ราย กำลังรักษา 72,954 ราย หายป่วยสะสม(ตั้งแต่ 1 เม.ย.64) 2,015,240 ราย