นายปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด หรือ บีไอจี เปิดเผยว่า บีไอจีได้ดำเนินการเพิ่มกำลังการผลิตออกซิเจนทั้งจากโรงแยกอากาศเดิมของบีไอจี และ โรงแยกอากาศมาบตาพุด แอร์โปรดักส์ จำกัด (Map Ta Phut Air Products Co., Ltd.: MAP) แห่งใหม่ที่ร่วมมือกับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. ซึ่งได้เปิดดำเนินการผลิตตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา เพื่อรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอน (Omicron)
รวมถึงการบริหารจัดการขนส่ง การสำรองออกซิเจนเหลวในถังเก็บสำรองที่อยู่พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง ขนาดความจุมากกว่า 7,300 ตัน และ การจัดหาท่อ Cylinder บรรจุออกซิเจน ด้วยแผนบริหารความต่อเนื่องทางธุรกิจ โดยใช้ระบบดิจิทัลแพลตฟอร์ม (Digital Platform) และ บิ๊กดาต้า (Big Data) ในการบริหารระบบซัพพลายเชนทั้งหมด เพื่อรองรับปริมาณความต้องการออกซิเจนทางการแพทย์ในทุกสถานการณ์
สำหรับการจัดส่งออกซิเจนของบีไอจีมีทั้งในรูปแบบของเหลว (Liquid) และนำมาเปลี่ยนสภาพเป็นก๊าซ ณ โรงพยาบาล ทำให้มีปริมาณออกซิเจนมากกว่าการขนส่งในรูปแบบก๊าซกว่า 800 เท่า และในรูปแบบของก๊าซ (Gas) บรรจุออกซิเจนในท่อ Cylinder ซึ่งสามารถนำไปใช้ทั้งในสถานพยาบาลและชุมชนได้ทันที
ทั้งนี้ บีไอจีได้ร่วมมือกับ ปตท. เดินเครื่องโรงแยกอากาศ MAP ตั้งแต่เดือนตุลาคม 64 ซึ่งทำให้บีไอจีมีกำลังการผลิตออกซิเจนรวมสูงถึง 1,150 ตัน/วัน เพื่อตอบสนองความต้องการในประเทศ
"จึงมั่นใจได้ในเรื่องของการเตรียมความพร้อมสำหรับออกซิเจนทางการแพทย์เพื่อรองรับระบบสาธารณสุขไทยอย่างเนื่องและเพียงพอ แม้ว่าจะมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอน ที่แพร่กระจายในหลายภูมิภาคและพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง"
อย่างไรก็ดี บีไอจีได้ทำงานร่วมกับบุคลากรทางการแพทย์และหน่วยงานอาสาเพื่อนำออกซิเจนไปช่วยเหลือผู้ป่วย โควิดจำนวนมากจากวิกฤติโควิดสายพันธุ์เดลตาที่ผ่านมา โดย บ. พร้อมสนับสนุนทุกภาคส่วนเพื่อรองรับความต้องการออกซิเจนที่เพิ่มขึ้นอีกครั้งจากการแพร่ระบาดของโควิดจากสายพันธุ์โอมิครอนระลอกใหม่ในขณะนี้ ซึ่งส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยใหม่ที่เข้ารักษาในสถานพยาบาลทั่วประเทศเพิ่มมากขึ้น
"บีไอจีจึงมั่นใจในความพร้อมเรื่องออกซิเจนทางการแพทย์ เพื่อรองรับความต้องการของผู้ป่วยโควิดสายพันธุ์โอมิครอนจากโรงพยาบาลต่าง ๆ ทั่วประเทศ รวมทั้งโรงพยาบาลสนาม มูลนิธิ หน่วยอาสา และ ชุมชน"