ปรับโซนสีโควิดล่าสุด อนุทินเตรียมเสนอ ศบค. เมื่อไหร่ เช็คเลย

18 ม.ค. 2565 | 11:56 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ม.ค. 2565 | 18:56 น.

ปรับโซนสีโควิดล่าสุด อนุทินเตรียมเสนอ ศบค. เมื่อไหร่ เช็คเลย พร้อมเล็งเพิ่ม ชลบุรี สมุทรปราการ ขอนแก่น และเชียงใหม่เป็นจังหวัดแซนด์บล็อก

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กระทรวงสาธารณสุขจะเสนอที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด 19 (ศบค.) วันที่ 20 มกราคม 2565 ปรับพื้นที่สถานการณ์ย่อยทั่วราชอาณาจักรหรือปรับระดับพื้นที่สีลง หากสถานการณ์ไม่มีความรุนแรงเพิ่มขึ้น 

 

 

และอาจเสนอให้เปิดลงทะเบียนการเข้าประเทศในระบบ Test&Go ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์นี้ ซึ่งยังมีเวลา 13 วันในการประเมินสถานการณ์การระบาด 

 

 

รวมถึงเสนอเพิ่มจังหวัดแซนด์บ็อกซ์จากเดิมที่เพิ่มไปแล้ว 3 จังหวัด โดยจะเพิ่มให้ครบทุกภูมิภาค เช่น ชลบุรี สมุทรปราการ ขอนแก่น และเชียงใหม่ เป็นต้น 

 

 

ส่วนพื้นที่ กทม.เป็นอำนาจของ กทม.ในการพิจารณา สำหรับสถานบันเทิงผับบาร์ยังไม่มีการเสนอในครั้งนี้ เนื่องจากยังคงเป็นสถานที่เสี่ยงที่มีการติดเชื้อจำนวนมาก

สำหรับผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 (Covid-19) แม้จะมีแนวโน้มลดลง แต่ยังพบว่าส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ และไม่ได้รับวัคซีนหรือรับวัคซีนไม่ครบ จึงขอให้มารับวัคซีนตามที่กำหนด เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงการติดเชื้อ อาการรุนแรงและเสียชีวิต โดยยืนยันว่าขณะนี้วัคซีนที่กระทรวงสาธารณสุขจัดเตรียมไว้มีความเพียงพอ 

 

 

สำหรับการตรวจ ATK ยังมีความจำเป็นในสถานการณ์การระบาด จึงได้มอบหมายให้องค์การเภสัชกรรมดำเนินการจัดหาให้เพียงพอในราคาต้นทุน เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงได้ โดยใช้ตรวจเมื่อมีความเสี่ยง ไม่จำเป็นต้องกักตุนไว้เพื่อตรวจทุกวัน

 

 

"ขณะนี้โรคโควิด-19 อยู่ในแนวโน้มที่ควบคุมได้ ผู้ที่มีอาการหนักและเสียชีวิตลดลง"

 

 

สำหรับสถานการณ์การติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศไทยล่าสุด วันที่ 18 มกราคม 2565 นั้น "ฐานเศรษฐกิจ" ติดตามข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข พบว่า

 

 

  • ติดเชื้อเพิ่ม 6397 ราย
  • ติดในระบบ 6173 ราย
  • ติดจากตรวจเชิงรุก 49 ราย
  • ติดในสถานกักตัว 165 ราย
     
  • ติดในเรือนจำ 10 ราย
  • สะสมระลอกที่สี่ 114,376 ราย
  • สะสมทั้งหมด 2,337,811 ราย
  • รักษาหาย 6637 ราย
  • สะสมระลอกที่สี่ 65,409 ราย
  • รักษาตัวอยู่ 81,952 ราย

 

 

สถานการร์โควิด-19

 

 

 

  • โรงพยาบาลหลัก 40,387 ราย
  • โรงพยาบาลสนาม 30,321 ราย
  • แยกกักที่บ้าน 10,745 ราย
  • อาการหนัก 534 ราย
  • ใช้เครื่องช่วยหายใจ 114 ราย
  • เสียชีวิต 18 ราย
  • สะสมระลอกที่สี่ 261 ราย
  • สะสมทั้งหมด 21,956 ราย
  • ติดเชื้อเข้าข่าย 1880 ราย
  • สะสมระลอกที่สี่ 31,369 ราย
  • ติดเชื้อรวม 8,277 ราย
  • สะสมระลอกที่สี่ 145,745 ราย