22 มกราคม 2565 กลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่จังหวัดชายแดนใต้ (กลุ่ม YES) พร้อมด้วย ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำท้องที่ หอการค้าจังหวัด สภาอุตสาหกรรมจังหวัด และภาคประชาชน ร่วมเสวนากับ นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ส.ส.บัญชีรายชื่อ และเลขาธิการพรรคประชาชาติ ในฐานะคลุกคลีพื้นที่ชายแดนใต้ และผู้ริเริ่มก่อตั้งกลุ่ม YES ร่วมกับ นายกูเฮง ยาวอหะซัน นายอับดุลอายี สาแม็ง นายสมมุติ เบ็ญจลักษณ์ ส.ส.พรรค เมื่อวันที่ 21 ม.ค. ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ภายในงานยังมีผู้เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจสังคมใน จ.นราธิวาส ปัตตานี ยะลา และศักยภาพเศรษฐกิจชายแดนใต้ อาทิ ดร.นิเมธ พรหมพยัต ประธานหอการค้าจังหวัดนราธิวาส ซึ่งได้แสดงความยินดี ที่ได้รับโอกาสจากนายคีรี เพื่อเสนอให้เห็นศักยภาพของอำเภอแว้ง เชื่อมอำเภอเบตง ที่เป็นเมืองสวยงามบรรยากาศเหมือนสวิสเซอร์แลนด์ ซึ่งเป็นศักยภาพของการท่องเที่ยวที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ
ขณะที่นายไพซอล อาแว นายกเทศมนตรีเมืองนราธิวาส ได้เสนอศักยภาพและโอกาสของจ.นราธิวาส เมืองชายแดนและข้อเสนอการพัฒนา
นายพงษ์ศักดิ์ ยิ่งชนม์เจริญ นายกเทศมนตรีนครยะลา ได้นำเสนอศักยภาพของจ.ยะลา โดยต้องพัฒนาเชื่อมโยงทั้งยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ซึ่งที่ยะลา จะเป็นเกาะที่สวยงามและมีศักยภาพเป็นศูนย์กลางด้านเกษตร คมนาคม การค้าและการท่องเที่ยว
นายวรุต ชคทิศ ประธานกลุ่มนักธุรกิจรุ่นใหม่และอุตสาหกรรมปัตตานี นำเสนอศักยภาพของจ.ปัตตานี เป็นศูนย์กลางอาหารทะเล และตลาดสินค้าประมงที่ใหญ่ของปลายด้ามขวาน
ดร.อาแซ สะยาคะ กลุ่มพัฒนาเกษตร ผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนาเสนอยกระดับการพัฒนาคุณภาพปาล์มน้ํามัน นายอับดุลอายี สาแม็ง ส.ส.ยะลา เขต 3 พรรคประชาชาติ ได้เสนอสถานการณ์ยางพาราที่ได้รับผลกระทบจากโรคใบร่วงและความท้าทายในการแก้ไขปัญหา
นายภคินวัฒน์ อุดมพงศ์ นักธุรกิจรุ่นใหม่เสนอการใช้เทคโนโลยีใช้โดรน (Drone) นายสุทันย์ ศรีใจพระเจริญ เสนอธุรกิจที่กอล์ฟและการพัฒนาสนามกอล์ฟในปัตตานี นายชารีฟ เด่นสุมิตร เสนอการค้าโดยแพลทฟอร์ม ที่เน้นวัตถุดิบฮาลาล ข้อเสนอแนวคิดธุรกิจของนักธุรกิจรุ่นใหม่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อขยายโอกาสทางธุรกิจและผลักดันศักยภาพธุรกิจในจังหวัดชายแดนภาคใต้
นายคีรี กาญจนพาสน์ ในฐานะนักธุรกิจใหญ่ที่ประสบความสำเร็จ ได้แสดงความคิดเห็นต่อโมเดลธุรกิจ และแนะนำโอกาสในการขยายธุรกิจกับผู้ร่วมงานอย่างเป็นกันเอง
นายคีรี กล่าวว่า ส่วนตัวมีความยินดีและเต็มใจมาพบปะพูดคุยกับกลุ่มนักธุรกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามคำเชิญของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รวมถึงเป็นครั้งแรกที่ได้มาเยือนจ.นราธิวาส ซึ่งถือเป็นจังหวัดใต้สุดของประเทศ และส่วนตัวเชื่อมั่นในศักยภาพของจังหวัดชายแดนภาคใต้ และวันนี้ได้มาแล้ว ก็มีโอกาสพูดถึงเรื่องศักยภาพเศรษฐกิจทางชายแดนใต้
"ผมจะขอแนะนำตัวสักนิดหนึ่งในฐานะที่ไม่เคยมาแถบนี้เลย ผมเกิดเมืองไทยที่กรุงเทพฯ แต่หลายคนจะบอกว่าเป็นมังกรฮ่องกง ผมเกิดในเมืองไทยเพียงแต่ว่าไปอยู่ต่างประเทศนาน โดยเฉพาะที่ฮ่องกง และก็มีโอกาสที่จะไปเห็นธุรกิจที่มีในต่างประเทศ อยู่ที่นั้นเกือบ 30 กว่าปี ก็เลยอาจจะมีความเห็นที่จะต่างกับคนไทยที่ยังไม่มีโอกาสไปเจออะไรบางอย่างเท่ากับผม เนื่องจากผมอยู่ที่นั่นนานเจอกับสิ่งต่างๆ เจอกับโอกาสต่างๆ" นายคีรี กล่าว
ทั้งนี้เมื่อกลับมาเมืองไทยสิ่งแรกที่ทำ คือ การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เพราะส่วนตัวชอบทำโครงการที่มองอะไรแล้วคิดถึงคนที่จะมาใช้ คนที่จะมาอยู่เป็นหลัก ฉะนั้นโครงการแรกที่ทำในเมืองไทย คือ โครงการธนาซิตี้ บางนา พื้นที่ประมาณ 1,400 กว่าไร่ ลงทุนทุกอย่างที่เป็นโครงสร้างของเมืองที่มีโครงสร้างพื้นฐานทุกอย่าง ถนน ไฟฟ้า น้ำ ก็เพราะว่ามันต้องมาเป็นเฟสๆ ในการเข้ามาอยู่
ส่วนโครงการต่อมาที่ประชาชนรู้จัก คือ หมู่บ้านเมืองทอง โครงการต่างๆ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป จํากัด (มหาชน) การบุกเบิกบริการรถไฟฟ้ารายแรกสายสีเขียว ได้ขยายการขยายเส้นทางรถไฟฟ้าสายต่างๆ ได้แก่ สายสีเหลือง และสายสีชมพู ได้ลงนามในสัญญาร่วมลงทุนโครงการพัฒนาสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา จะเป็นสนามบินเชิงพาณิชย์หลักแห่งที่ 3 มูลค่าสัญญามากกว่า 3 แสนล้านบาท และต้องพัฒนาเป็นเมืองอีก 2 แสนล้านบาท รวมประมาณ 5 แสนล้านบาท ยังมีธุรกิจด้านการท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศก่อนโควิดมีโรงแรมประมาณ 30,000 ห้องในช่วงโควิดได้ขายไปบางส่วนเหลือประมาณหมื่นกว่าห้อง
"การตัดสินใจลงมาที่พื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ด้วยความเชื่อมั่นในตัวอาจารย์วันมูหะมัดนอร์ มะทา และ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ข้อเสนอทุกข้อเสนอ และได้ให้คำปรึกษาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่ได้ทำธุรกิจมากอย่างสนใจและจริงใจ ที่ผู้เข้าร่วมเสวนามีความดีใจให้ความสนใจ และพูดคุยอย่างเป็นกันเอง" นายคีรี กล่าว
ขณะที่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวขอขอบคุณ นายคีรี ซึ่งได้เสียสละเวลาเดินทางมาพบกับนักธุรกิจสตาร์ทอัพ รวมถึงนักธุรกิจรุ่นใหม่ในพื้นที่สามจังหวัดภาคใต้ ในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์
ด้าน พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า กิจกรรมวันนี้เป็นพหุวัฒนธรรม พหุสหวิชาชีพ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และการศึกษา สิ่งที่เข้มแข็งที่สุดของจังหวัดชายแดนภาคใต้ คือทรัพยากรบุคคล ผสมกับทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ที่สุด แต่ปัญหาแทรกซ้อนจนรู้สึกหวาดระแวง ยังไม่ใช้ศักยภาพให้เต็มศักยภาพ จึงเป็นความท้าทายที่จะนำภาคใต้ไปสู่การพัฒนา ไปสู่การอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข และมีความเจริญก้าวหน้า
"วันนี้ดีใจมากที่เคยทำโครงการนำเยาวชนหรือนักธุรกิจที่อยากจะทำธุรกิจมารวมกัน เหมือนวิทยาลัยตลาดทุน แต่ตลาดทุนอาจจะมุ่งไปถึงเศรษฐกิจ แต่การที่กลุ่มน้องๆเป็นกลุ่มโครงการธุรกิจรุ่นใหม่ชายแดนใต้ก็อยากให้เป็นทั้งตลาดทุนและทุนมนุษย์ ทุนทางสังคมที่จะได้มีโอกาสมีความเชื่อมโยง แล้วใช้สติปัญญาของน้องๆ เป็นคนรุ่นใหม่ เพราะคนก่อนก็จะต้องไป คนใหม่ก็จะต้องเข้ามาด้วยความเข้มแข็งและมั่นคง ที่ผ่านมาอาจกล่าวว่า มีศักยภาพและมีความท้าทายแต่ยังไม่ถึงโอกาส สิ่งที่สำคัญที่สุดวันนี้คือ เป็น ‘โอกาส’ ที่ดีมา ผลงาน ประสบการณ์ ความรู้ความเชี่ยวชาญของท่านคีรี ที่เป็นที่ยอมรับในระดับนานาชาติ แล้วที่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดคือความจริงใจที่อยากจะทำสิ่งดีงามเกิดประโยชน์ต่อคนส่วนรวม" เลขาธิการพรรค กล่าว