ศ.นพ.ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา (หมอธีระวัฒน์) ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว (ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha)โดยมีข้อความว่า
ความไวและแม่นยำของ เอทีเค (ATK) ในเด็ก มีเพียง 50% นิดๆ
ATK ที่ผ่านการรับรองของ ทางการในแต่ละประเทศและดูตามข้างกล่อง มีความไวสูงถึง 95 ถึง 97% ด้วยซ้ำ
รายงานจากประเทศอังกฤษ จากการรวบรวม และวิเคราะห์อภิมาน สรุปว่าการตรวจในเด็กที่ไม่มีอาการ พบว่ามีความไวเพียง 56.2%
โดยยังมีความจำเพาะ 98.6% นั่นคือตรวจเจอได้มากกว่าครึ่งเดียวเล็กน้อยแต่ถ้าตรวจเจอค่อนข้างมั่นใจว่าติดแน่
มาตรฐานขององค์การอนามัยโลกและสำนักอาหารและยา ต้องมีความไว (Sensitivity)อย่างน้อย 80% และความจำเพาะ (Specificity) อย่างน้อย 97%
แต่ถ้าเด็กมีอาการจะมีความไวเพิ่มขึ้นเป็น 71.8% แต่ก็หมายความว่าก่อนหน้ามีอาการได้แพร่ไปสู่คนอื่นเรียบร้อยแล้วหลายวัน
อย่างไรก็ดี หมอธีระวัฒน์ ยังได้ระบุข้อความในโพสต่อมาด้วยว่า
ความเสถึยรบนพื้นผิวของโอมิครอน (Omicron)
จากรายงานของคณะผู้วิจัยจากประเทศญี่ปุ่นพบว่า
โอมิครอน เก่งกว่าสายก่อนหน้านั้นมาก
ทั้งนี้ จากการทดสอบความเสถียรของไวรัส (virus stability) ตัวต่างๆบนพื้นผิวพลาสติก (Polystyrene) และบนผิวหนังของมนุษย์
บนพื้นผิวพลาสติก
บนผิวหนัง(เรียงตามลำดับของไวรัสตามข้างต้นเป็นชั่วโมง)
8.6 19.6/19.1/11/16.8/21.1
ทั้งนี้ ปริมาณของไวรัสที่อยู่บนพื้นผิว ต้องอยู่ที่ 100.5 TCID50
ดังนั้นมีความสำคัญในการทำความสะอาดพื้นผิวไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เก้าอี้ และอื่นๆในสถานที่ทำงาน และระวังการสัมผัสเนื้อตัว อย่าลืมล้างมือบ่อยๆเด็ดขาด
อย่างไรก็ตาม น้ำยาฆ่าเชื้อในสถานที่ ที่ใช้อยู่ขณะนี้สามารถกำจัดไวรัสได้ภายใน 15 วินาที
และการใช้เอทานอล หรือแอลกอฮอล์ 35% สามารถกำจัดไวรัสบนผิวหนังได้ภายใน 15 วินาทีเช่นกัน