น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า
31 มกราคม 2565 วันดีเดย์ประวัติศาสตร์ไทย ที่เราจะเริ่มฉีดวัคซีนโควิดของ Pfizer ในเด็กอายุ 5-11 ขวบ
จากสถานการณ์ระบาดของโควิดจากไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) ตลอดสองเดือนที่ผ่านมา ทำให้มีประเทศที่ติดเชื้อไปแล้ว 160 ประเทศ
จากข้อมูลที่พบ กลุ่มผู้ติดเชื้อที่พบมากขึ้นเป็นลำดับในช่วงที่ผ่านมาได้แก่ กลุ่มที่ไม่ฉีดวัคซีน และกลุ่มที่ไม่ฉีดวัคซีนใหญ่ที่สุดก็คือกลุ่มเด็กที่อายุ 5-11 ขวบนั่นเอง
จึงได้เร่งทำการศึกษาวิจัย เพื่อฉีดวัคซีนป้องกันโควิดในเด็กอายุ 5-11 ปี ตามหลังจากที่เคยวิจัยเด็กอายุ 12-17 ปีสำเร็จไปแล้ว
ในขณะนี้ อย.ไทยได้อนุมัติให้วัคซีนของไฟเซอร์ขนาดโดสเด็ก 10 ไมโครกรัม ฝาสีส้ม สามารถฉีดในเด็กไทยอายุ 5-11 ขวบได้แล้ว
โดยเมื่อวานนี้ (26 มกราคม 2565) วัคซีนเด็กของ Pfizer ได้ส่งมาถึงประเทศไทยแล้ว 3 แสนโดส และอยู่ในขั้นตอนส่งให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ทำการตรวจสอบ ทั้งตัววัคซีนและเอกสารที่เกี่ยวข้อง
โดยจะมีการทยอยจัดส่งทุกสัปดาห์อีก 3.2 ล้านโดส รวมเป็น 3.5 ล้านโดส ภายใน 31 มีนาคม 2565
รายละเอียดสำหรับวัคซีนที่จะฉีดให้เด็กไทยครั้งนี้ประกอบด้วย
โดยผลข้างเคียงจากการศึกษา ไม่แตกต่างจากผลข้างเคียงที่พบในเด็กอายุ 12-17 ปี จึงควรที่จะเฝ้าสังเกตอาการดังนี้
ซึ่งผลข้างเคียงที่พบนั้นอยู่ในระดับน้อยถึงน้อยมาก
ในช่วงที่ผ่านมา ในเด็กไทยอายุ 12-17 ปี จำนวน 4.5 ล้านคน ได้ฉีดวัคซีนเข็ม 1 ไปแล้ว 3.4 ล้านโดส คิดเป็น 75%
และฉีดเข็มสองไปแล้ว 3.3 ล้านโดส คิดเป็น 72%
มีผลข้างเคียงที่รุนแรงจำนวนน้อยมาก และไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนเลย
ส่วนในกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปี มีจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 5 ล้านคน ถ้าต้องการฉีดให้ได้ 70% ก็จะต้องฉีด 3.5 ล้านคน
จึงเป็นที่มาของการนำเข้าวัคซีนไฟเซอร์ขนาดฉีดในเด็กจำนวน 3.5 ล้านโดส เพื่อฉีดเข็มหนึ่งในสองเดือนข้างหน้า
ซึ่งจะฉีดวันละประมาณ 5-60,000 โดส
ในขณะนี้ตามกำหนดแล้ว จะมีการฉีดวัคซีนโควิดของPfizer ให้เด็กไทยอายุ 5-11 ขวบ เป็นครั้งแรกที่โรงพยาบาลเด็ก (หรือชื่อใหม่สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติฯ)ในวันที่ 31 มกราคม 2565
จึงอยากให้พ่อแม่ผู้ปกครอง ได้กรุณาศึกษาข้อมูลผลดีของการที่ได้จากฉีดวัคซีนในเด็ก และผลข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นได้บ้าง เพื่อประกอบการตัดสินใจฉีดวัคซีนให้กับบุตรหลานของตนเองต่อไป