โควิดวันนี้รวมatk ติดเชื้อทะลุ 7.2 หมื่นราย สถิติสูงสุดเท่าที่เคยระบาด

10 มี.ค. 2565 | 02:13 น.
อัปเดตล่าสุด :11 มี.ค. 2565 | 14:41 น.

โควิดวันนี้รวมatk ติดเชื้อทะลุ 7.2 หมื่นราย สถิติสูงสุดเท่าที่เคยระบาด หมอธีระชี้หนึ่งสัปดาห์ปอดอักเสบเพิ่มขึ้น 9.46%

โควิดวันนี้รวมatk ยังคงมีตัวเลขผู้ติดเชื้อที่อยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง  โดยเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอน (Omicron) ที่ยังถือว่าอยู่ในระดับสูง และเป็นประเด็นที่ประชาชนให้ความสนใจ และติดตาม 

 

รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความว่า 

 

พีคกว่าเดิม  สูงสุดเท่าที่เคยระบาดมา

 

  • 22,984

 

  • ATK 49,494

 

  • รวม 72,478

 

อัตราตรวจพบเป็นผลบวก 49.11% 

 

หนึ่งสัปดาห์ผ่านไป ปอดอักเสบเพิ่มขึ้นจาก 1131 คน เป็น 1,238 คน เพิ่มขึ้น 9.46%
 

ใส่ท่อช่วยหายใจเพิ่มจาก 325 คน เป็น 420 คน เพิ่มขึ้น 29.23%

 

จากธรรมชาติของทั่วโลก จำนวนติดเชื้อสูงสุดต่อวันในระลอก Omicron จะสูงกว่าระลอกก่อนหน้า 3.65 เท่า 

 

ยอดวันนี้ของไทยคิดเป็น 3.09 เท่า

 

เคยคาดประมาณว่าพีคไทยอาจไปถึง 85,476 คนต่อวัน

 

โควิดวันนี้รวมatk ติดเชื้อทะลุ 7.2 หมื่นราย

 

ป.ล.ยิ่ง time to peak (ขาขึ้น) ยาวนานเท่าใด ขาลงจะยาวกว่าเดิม 1.5 เท่าโดยเฉลี่ย 

 

ดังนั้นนโยบายและมาตรการรัฐ ด้านสาธารณสุข โดยเฉพาะอย่างยิ่งการป้องกันควบคุมโรคนั้นสำคัญยิ่ง

 

หมอธีระยังโพสด้วยว่า 

 

มองโลก  

 

ส่วนตัวแล้วฟันธงว่าไม่มีทางที่จะเป็นโรคประจำถิ่นใน 4 เดือน หากยังดำเนินนโยบายและมาตรการแบบที่เป็นมา
 

ด้วยระบบ โครงสร้าง และกลไกทางสาธารณสุขและสังคมที่มีอยู่ตอนนี้ จำเป็นต้องมีแผนรับมือการเปลี่ยนผ่านของธรรมชาติการระบาดที่นานกว่าที่ประกาศออกมา 

 

เพื่อจัดการความเสี่ยง และลดโอกาสสูญเสียทั้งระยะสั้นจากการติดเชื้อป่วยและตาย และระยะยาวจาก Long COVID

 

"ในช่วง 6 เดือนถัดจากนี้ จะมีความรู้เกี่ยวกับ Long COVID จากเดลตาและ Omicron ออกมามากขึ้น และจะเป็นลูกแก้วทำนายอนาคตของภาวะ New Normal ในช่วงถัดจากนั้นไปว่าจะเป็นเช่นไร"

 

ดังนั้น ทางที่เหมาะสมคือ การชี้นำให้คนในสังคมเห็นถนนหนทางข้างหน้าที่อยู่บนฐานความรู้ สอดคล้องกับความจริง

 

ไม่ฉายภาพฝันให้หลงเคลิ้ม กลางทะเลทราย

 

ไม่เปิดเพลงไพเราะเสนาะหู เพื่อกลบเสียงกรีดร้องทิ่มแทงใจที่ยังมีอย่างดาษดื่น

 

การรับมือวิกฤติด้วยความรู้ จะช่วยให้สังคมมีภูมิคุ้มกัน มีสติ ไม่ประมาท และพร้อมที่จะเผชิญกับภาวะคุกคามที่เกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

เรามีบทเรียนมากมายหลายเรื่องในรอบปีกว่าที่ผ่านมา ทั้งใกล้ตัวไกลตัว
ไม่ธรรมดา ไม่กระจอก ไม่เพียงพอ และเอาไม่อยู่  หากประมาท

 

ดังนั้นก้าวย่างช้าๆ แต่มั่นคง ย่อมดีกว่ารีบก้าวและหล่นลงเหว