สูตรฉีดวัคซีนต้านโควิด19 ควรต้องเป็นอย่างไรถึงจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 (Covid-19) โดยเฉพาะสายพันธุ์โอมิครอน (Omicron)
นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ (หมอมนูญ) ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว (หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC) โดยมีข้อความระบุว่า
ฮ่องกงมีประชากร 7.4 ล้านคน ติดเชื้อไวรัสโควิดไปแล้ว 1.09 ล้านคน เสียชีวิต 6,569 คน
อัตราเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 สูงที่สุดในโลก คนที่เสียชีวิตส่วนใหญ่ไม่ได้ฉีดวัคซีน หรือยังไม่ได้ฉีดเข็มกระตุ้น
สัปดาห์ที่แล้วมีติดเชื้อสูงสุด 7.5 หมื่นคนต่อวัน แต่ขณะนี้เริ่มลดลงแล้ว
การที่คนฮ่องกงเสียชีวิตมากจากโรคโควิด-19 ทั้งๆที่ส่วนใหญ่ติดเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน ซึ่งมีความรุนแรงน้อยกว่าสายพันธุ์เดลตาหลายเท่า เพราะ
1.คนฮ่องกง 60% ได้รับวัคซีน 2 เข็ม และคนฮ่องกงอายุ 70 ปีขึ้นไป 50% ยังไม่ได้รับวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว
คนอายุ 80 ปีขึ้นไป 50% ได้รับเพียงเข็มเดียว 37% ได้รับ 2 เข็ม มีเพียง 2% เท่านั้นที่ได้รับ 3 เข็ม
2.วัคซีนที่คนฮ่องกงได้รับ 80% เป็นวัคซีนเชื้อตายซิโนแวค ที่มีประสิทธิภาพสูงไม่เพียงพอสำหรับเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอน
คนฮ่องกงเพียง 20% เลือกฉีดวัคซีน mRNA ไฟเซอร์
มีการศึกษาในฮ่องกงพบว่าวัคซีนเชื้อตายป้องกันการเสียชีวิตจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนไม่ดีเท่าวัคซีนไฟเซอร์
ประเทศไทยนำเข้าวัคซีนเชื้อตายซิโนแวคและซิโนฟาร์มรวม 40 ล้านโดส
คนไทยที่ได้รับวัคซีนเชื้อตาย 2 เข็ม หลังได้วัคซีนแอสตร้าเซเนก้า 1 เข็ม
ต้องกระตุ้นด้วยเข็มที่ 4 เป็นวัคซีน mRNA ไฟเซอร์หรือโมเดอร์นา ถึงจะมั่นใจว่าป้องกันการป่วยหนักและเสียชีวิตจากไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนได้
ส่วนคนที่ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า 2 เข็ม ต้องกระตุ้นด้วยวัคซีนชนิด mRNA ไฟเซอร์หรือโมเดอร์นาอีก 1 เข็ม