วันนี้11 เม.ย.65 ยาแพ็กซ์โลวิด (Paxlovid) 50,000 คอร์สการรักษา หรือจำนวน 1.5 ล้านเม็ด ล็อตแรก จะเดินทางถึงประเทศไทย โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) จะเป็นประธานในพิธีรับมอบและเป็นสักขีพยานในการส่งมอบยาแพ็กซ์โลวิด ก่อนกระจายลงพื้นที่
กรมการแพทย์ ระบุว่า ได้หารือร่วมกับบริษัทไฟเซอร์ เพื่อกระจายยาลงไปในแต่ละพื้นที่ก่อนเทศกาลสงกรานต์ และการส่งมอบ 50,000 คอร์ส แบ่งเป็น 2 ชิพเมนต์ ภายในเดือนเมษายน 2565
ยาแพ็กซ์โลวิด ล็อตนี้ นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ได้ทำสัญญาจัดซื้อกับบริษัทไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เมื่อวันที่ 24 มี.ค.65 จำนวน 50,000 คอร์ส เพื่อนำไปใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอาการรุนแรง
ผลการศึกษายาแพ็กซ์โลวิด พบว่า ช่วยลดความเสี่ยงการป่วยหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาลและเสียชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
โดยข้อมูลจากการศึกษาวิจัย 1,379 คน ลดความเสี่ยงการนอนโรงพยาบาล หรือเสียชีวิตลงได้ร้อยละ 88 เมื่อผู้ป่วยได้รับยาภายใน 5 วัน นับตั้งแต่เริ่มมีอาการ
กลุ่มที่ให้ยาแพ็กซ์โลวิด นอนโรงพยาบาล ร้อยละ 0.77 และไม่มีผู้เสียชีวิต ขณะที่ กลุ่มได้รับยาหลอก มีผู้ป่วยนอนโรงพยาบาล ร้อยละ 6.31 มีผู้เสียชีวิตในกลุ่มที่ได้ยาหลอก 13 ราย
อย่างไรก็ตาม กรมการแพทย์ ยืนยันแนวทางการจ่ายยาแพ็กซ์โลวิดในผู้ป่วยที่เข้าเกณฑ์จะคล้ายกับยาโมลนูพิราเวียร์ เป็นไปตามแนวทางรักษาผู้ป่วยที่กรมการแพทย์ประกาศ เมื่อวันที่ 21 มี.ค.65 คือ จ่ายยาในผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปที่ต้องมีโรคร่วม พร้อมมีประวัติการฉีดวัคซีนไม่ครบหรือยังไม่ได้รับวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว
อนึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2565 อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) วงเงิน 8,458.38 ล้านบาท
เพื่อใช้จ่ายเป็นค่าตอบแทนการเสี่ยงภัยของเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงาน ค่าตอบแทนบุคลากรนอกเหนือภารกิจปกติ สำหรับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 นอกสถานพยาบาล ค่ารักษาผู้ป่วยไร้สิทธิการรักษา และจัดซื้อยาแพ็กซ์โลวิด (Paxlovid) เพื่อนำมาใช้รักษาผู้ป่วยโควิด-19 นั้น