โอมิครอนไม่กระจอก! รวม ATK ไทยติดเชื้อ-เสียชีวิต อันดับ 5 ของโลก

12 เม.ย. 2565 | 06:09 น.
อัปเดตล่าสุด :12 เม.ย. 2565 | 14:19 น.

หมอธีระชี้ หากรวม ATK ไทยติดติดเชื้อโควิดและเสียชีวิต อันดับ 5 ของโลก เปิดผลวิจัยระบุชัดหลังป่วยโควิด เกิดอาการ Long COVID สูงถึง 49.5% ย้ำโควิดไม่กระจอก สธ.ต้องปรับ Mindset ให้เหมาะสม

12 เม.ย. 65 รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ หรือ “หมอธีระ” คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ในเพจเฟซบุ๊ก “ThiraWoratanarat” ประเทศไทยยังน่าห่วงกับการระบาดของ โควิด-19 สายพันธุ์ โอมิครอน

 

โดยหากรวมผลตรวจ Antigen Test Kit หรือ ATK จะมีสถิติติดอันดับ 5 ของ จำเป็นต้องปรับแนวทางการป้องกัน พร้อมเปิดผลวิจัยของญี่ปุ่นพบอาการ Long COVID พบมากถึง 49.5 % มีเนื้อหาดังนี้ 

 

499.6 ล้านไปแล้ว   พรุ่งนี้จะทะลุ 500 ล้านคน

เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 515,032 คน ตายเพิ่ม 1,917 คน รวมแล้วติดไปรวม 499,630,064 คน เสียชีวิตรวม 6,205,365 คน

 

5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ เยอรมัน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และอิตาลี (แต่หากรวม ATK ไทยเราจะเป็นอันดับ 5 ของโลก ติดต่อกันเป็นวันที่สอง)

 

เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่มีประเทศจากยุโรปและเอเชียครอง 8 ใน 10 อันดับแรก และ 15 ใน 20 อันดับแรกของโลก

 

จำนวนติดเชื้อใหม่ในแต่ละวันของทั่วโลกตอนนี้ มาจากทวีปเอเชียและยุโรป รวมกันคิดเป็นร้อยละ 83.02 ของทั้งโลก ในขณะที่จำนวนการเสียชีวิตคิดเป็นร้อยละ 84.66

 

การติดเชื้อใหม่ในทวีปเอเชียนั้นคิดเป็นร้อยละ 39.08 ของทั้งโลก ส่วนจำนวนเสียชีวิตเพิ่มคิดเป็นร้อยละ 32.65
 

 

...สถานการณ์ระบาดของไทย

เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่ รวม ATK สูงเป็นอันดับ 5 ของโลก และอันดับ 3 ของเอเชีย

ในขณะที่จำนวนเสียชีวิตเมื่อวาน สูงเป็นอันดับ 6 ของโลก และอันดับ 2 ของเอเชีย เป็นรองเพียงเกาหลีใต้

 

...วิเคราะห์ผลลัพธ์จากการบริหารนโยบายสาธารณสุขและป้องกันควบคุมโรค

ผลลัพธ์สำคัญที่เห็นคือ

หนึ่ง จำนวนติดเชื้อใหม่ รวม ATK ติด Top 5 ของโลก ท่ามกลางสถานการณ์ที่ประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลกนั้นเป็นขาลง แต่การระบาดของเรายังรุนแรงต่อเนื่อง


สอง จำนวนเสียชีวิตต่อวัน ติดอันดับ Top 5-10 ของโลกติดต่อกัน นอกจากนี้ล่าสุดเมื่อวานนี้จำนวนการเสียชีวิตต่อวันของเราเป็นอันดับ 2 ของเอเชีย และคิดเป็น 5.47% ของการเสียชีวิตทั้งหมดทั่วโลก และ 16.77% ของเอเชีย

 

สาม ข้อมูลจาก Ourworldindata จากทั้ง 2 ภาพ จะเห็นได้ว่า ถ้าเปรียบเทียบช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้าการระบาด ไทยเรามีการเสียชีวิตที่สูงกว่าเดิมมาก (Excess mortality rate)

 

นับตั้งแต่การจัดการระบาดระลอกสอง สาม และสี่เป็นต้นมา แสดงถึงผลลัพธ์ที่ชัดเจนจากการบริหารนโยบายและมาตรการด้านสาธารณสุขที่ยังไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอในการควบคุมป้องกันโรค และการจัดระบบบริการดูแลรักษา


ผลลัพธ์ข้างต้น น่าจะเป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ที่พิสูจน์ให้เห็นว่าอะไรเป็นอะไร 
โควิด-19 เอาอยู่ เพียงพอ กระจอก หรือธรรมดา จริงหรือไม่?

โอมิครอนไม่กระจอก! รวม ATK ไทยติดเชื้อ-เสียชีวิต  อันดับ 5 ของโลก

 

...Mindset ที่ถูกต้องเหมาะสม จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ดี

โดยหลักการแล้ว สงครามโรคที่รุนแรงนั้น ประเทศต่างๆ ทั่วโลกจำเป็นต้องมีจุดยืนบน mindset ที่ไม่ปรามาสด้อยค่าสมรรถนะของเชื้อโรค เน้นเรื่องลดความเสี่ยง มุ่งหาทางทำให้เกิดสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิตแก่คนในสังคม 


หากทำเช่นนั้นได้ ก็จะสะท้อนออกมาเป็นนโยบายและมาตรการที่ลดความเสี่ยง ไม่ใช่เพิ่มความเสี่ยง และการวางแผนจัดการเรื่องยา และวัคซีน ทั้งในเรื่องความสอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติของประเทศพัฒนาแล้ว ปริมาณ ระยะเวลาที่จัดหามาได้ กฎเกณฑ์ที่ถูกกำหนดและส่งผลต่อการเข้าถึงสำหรับทุกคน 

 

ไม่ใช่จัดแล้วทำให้เกิดปัญหาความไม่เป็นธรรม (Health inequity) เกิดปัญหารหัสลับเพื่อลัดคิวหรือเข้าถึงโดยเส้นสายดังที่เห็นบทเรียนมากมายตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน


...อัพเดตงานวิจัย Long COVID
Sugiyama A และคณะจากประเทศญี่ปุ่น รายงานผลการศึกษาเชิงสำรวจเกี่ยวกับ Long COVID ในผู้ที่เคยติดเชื้อโรคโควิด-19 จำนวน 127 คน จาก 2 โรงพยาบาลในเมืองฮิโรชิม่า ช่วงสิงหาคม 2563-มีนาคม 2564

 

พบว่า ณ ช่วงเวลาที่ทำการสำรวจนั้น มีผู้ป่วยที่มีอาการผิดปกติต่อเนื่องภายหลังจากติดเชื้อในช่วงแรกถึง 52% 
โดยคนที่เคยติดเชื้อแบบมีอาการน้อยก็รายงานว่ามีอาการคงค้างสูงถึง 49.5% ทั้งนี้อาการที่พบบ่อยมักเป็นปัญหาเรื่องการดมกลิ่น การรับรส ไอ เป็นต้น

โอมิครอนไม่กระจอก! รวม ATK ไทยติดเชื้อ-เสียชีวิต  อันดับ 5 ของโลก

เทียบกันแล้วพบว่า คนที่อายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปจะมีความเสี่ยงต่อการเกิดอาการคงค้างมากกว่าคนที่อายุน้อยกว่า 40 ปีลงมา ถึง 3.63 เท่า

 

จากผู้ป่วยที่มี Long COVID ทั้งหมด พบว่ามีถึง 29.1% ที่ส่งผลกระทบต่อสมรรถนะการทำงาน

 

นอกจากนี้ปัญหาสำคัญอีกเรื่องคือ การถูกตีตราทางสังคมหรือกีดกัน (Stigma and discrimination) ที่พบได้มากถึง 43.3%
ผลการศึกษานี้ชี้ให้เห็นความสำคัญในการที่แต่ละประเทศควรเตรียมระบบบริการดูแลรักษา ฟื้นฟูสภาพ ให้คำปรึกษาแก่ผู้ป่วย Long COVID ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณมากในอนาคตหลังจากผ่านพ้นระยะการระบาดหนักไป

 

ไม่ใช่แค่ปัญหาด้านการแพทย์ แต่สิ่งสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันคือปัญหาในการดำเนินชีวิตประจำวัน และผลกระทบทางสังคมและเศรษฐกิจ ทั้งต่อตัวผู้ป่วย ครอบครัว และประเทศ
สุดท้าย...bottomline

การป้องกันตัวเองและครอบครัวไม่ให้ติดเชื้อย่อมดีที่สุด
หัวใจสำคัญคือ การใส่หน้ากากครับ เพราะคือปราการด่านสุดท้ายของทุกคน 

 

อ้างอิง
Sugiyama A et al. Long COVID occurrence in COVID-19 survivors. Scientific Reports. 11 April 2022.