สิ้นพระเกจิดัง"หลวงปู่แสง จันทวังโส"ละสังขารอย่างสงบ สิริอายุ 111 ปี

22 เม.ย. 2565 | 00:48 น.
อัปเดตล่าสุด :22 เม.ย. 2565 | 07:48 น.

ศิษยานุศิษย์ร่วมอาลัยพระเกจิดัง พระเทพมงคลวัชรโรดม หรือ "หลวงปู่แสง จันทวังโส" สืบสายธรรมหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล และหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บูรพาจารย์พระป่า สิริอายุ 111 ปี 91 พรรษา

ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่วัดโพธิ์ชัย บ้านโพนตูม หมู่ 4 ต.ก้านเหลือง อ.นาแก จ.นครพนม บรรดาศิษย์ยานุศิษย์ที่ทราบข่าวนี้การมรณภาพ ต่างเดินทางมา กราบไหว้สรีระสังขารแสดงความไว้อาลัย หลวงปู่แสง จันทวังโส หรือ พระเทพมงคลวัชรโรดม อายุ 111 ปี 91 พรรษา พระเกจิชื่อดัง อดีตเจ้าคณะตำบลก้านเหลือง อดีตเจ้าอาวาสวัดโพธิ์ชัย ได้ละสังขารอย่างสงบที่กุฏิ เมื่อวานนี้ (21 เม.ย.65 ) เวลา 06.20 น. 

 

พระเทพมงคลวัชรโรดม หรือ หลวงปู่แสง จันทวังโส มีอาการอาพาธด้วยโรคชรา มีโรคประจำตัวคือ โรคปอด และโรคระบบทางเดินหายใจ มีอาการหอบเหนื่อยอ่อนเพลีย เนื่องจากชราภาพมากแล้วก่อนจะละสังขาร
 


หลวงปู่แสง มีนามเดิมว่า นายแสง วงค์ตาผา เกิดเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2454 ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 6 เป็นชาวบ้านดอนโทน ต.ก้านเหลือง อ.นาแก จ.นครพนม ต่อมาเมื่อ อายุ 19 ปี ได้บวชเณรหน้าไฟอุทิศให้คุณตาที่วัดศรีสำราญจิตต.ก้านเหลือง อ.นาแก จ.นครพนม มีพระครูนาครธรรมนิเทศ เป็นพระอุปัชฌาย์

 

หลังบวชท่านอยากจะสึก แต่เจ้าอาวาสไม่ยอมให้สึก จึงธุดงค์ไป จ.ขอนแก่น มุ่งสู่ อ.บ้านไผ่ จ.ร้อยเอ็ด จนถึง อ.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี ใช้เวลานาน 7 เดือน ก่อนที่จะอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดบ้านแก้ง ต.เขมราฐ จ.อุบลราชธานี มีพระครูบริหารเกษมรัฐ เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายาว่า จันทวังโส แปลว่า วงษ์แห่งพระจันทร์ มุ่งศึกษาพระปริยัติธรรม จนสอบไล่ได้นักธรรมตรี-โท-เอก ตามลำดับพร้อมศึกษาด้านวิทยาคม อักขระเลขยันต์ จนเชี่ยวชาญ

หลวงปู่แสง เป็นศิษย์สืบสายธรรม หลวงปู่เสาร์ กันตสีโล และหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บูรพาจารย์พระป่า และยังเป็นสหธรรมิกหลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ พระเกจิชื่อดังภาคอีสาน วัดธาตุมหาชัย อ.ปลาปาก จ.นครพนม ด้านวัตถุมงคลคณะลูกศิษย์ได้จัดสร้างวัตถุมงคลหลายรุ่น แต่ละรุ่นล้วนมีพุทธคุณ และเป็นที่เสาะแสวงหาแห่นักอนุรักษ์สะสมจนรุ่นสุดท้ายก่อนปิดการสร้าง คือเหรียญรุ่นศรัทธาบารมี เนื่องในโอกาสฉลองอายุวัฒนมงคล 109 ปี

 

ลำดับสมณศักดิ์ ต่อมาเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2564 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ถวายสัญญาบัตร พัดยศ ผ้าไตร เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชมงคลวัชโรดม และล่าสุดเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2565 ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เลื่อนเป็นพระราชาคณะชั้นเทพ "พระเทพมงคลวัชโรดม" ก่อนจะละสังขารเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2565