ข่าวโควิดวันนี้ยังคงเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากประชาชน ทั้งจำนวนของผู้ติดเชื้อในแต่ละวัน และผู้เสียชีวิต
นายสันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง โพสข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว (Sunt Srianthumrong) โดยมีข้อความว่า
Covid-19: Back to School ประเมินสถานการณ์วันเปิดเทอมสำหรับผู้ปกครอง มองไปข้างหน้า มองย้อนหลัง สิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆช่วงสงกรานต์ ตัวเลขที่รับรู้กับตัวเลขที่ควรจะเป็นจริง
ข่าวดีที่สุดในรอบ 2 ปี
คำแนะนำเบื้องต้น
ขอย้ำว่า สิ่งที่เราเห็นไม่ใช่สิ่งที่เป็นจริง ไม่ได้ดีงามแบบนั้น แต่สิ่งที่เป็นจริงก็ไม่ได้เลวร้ายจนไปต่อไม่ได้ และเรากำลังเดินหน้าเข้าสู่ Endemic (โรคประจำถิ่น) แน่นอน เร็วๆนี้
ตัวเลขวันนี้:
สัญญาณขาลงที่ชัดที่สุดในรอบ 4 เดือนครึ่ง:
ตัวเลขนี้อีกไม่นานเข้า Endemic แน่นอน น่าจะเร็วกว่าที่คาดด้วย
สิ่งที่ต้องย้ำเตือนใจ:
ตัวเลขที่ประกาศกับตัวเลขที่น่าจะเป็นจริงมากกว่า:
สังเกตุดีๆ เปรียบเทียบระหว่าง Delta (เดลตา) ที่ว่าแรง กับ Omicron (โอมิครอน) ที่ว่ากันว่าเบากว่า 10 เท่า แถมมีวัคซีนเยอะแล้วด้วย
Delta: ช่วงขาลง
17 ก.ย. 2021 ติดเชื้อใหม่ 14,555 ATK 1,630 ใส่ท่อช่วยหายใจ 787 ตาย 171
Omicron: ช่วงขาลง
6 พ.ค. 2022 ติดเชื้อใหม่ 7,705 ATK 5,288 ใส่ท่อช่วยหายใจ 778 ตาย from Covid 62 ถ้ารวม with Covid ก็น่าจะประมาณ 125 - 130 คน
เห็นไหม ถ้าใช้ตัวเลขที่ประกาศ เสมือนกับว่า Omicron เจ็บหนักและตายพอๆกันถ้าติดเชื้อเท่าๆกัน และน่าจะรุนแรงกว่า Delta เสียอีกเพราะช่วงนี้เราฉีดวัคซีนไปมากกว่าปีที่แล้วอย่างมากด้วย
ปัญหาของตัวเลข:
ผมทำตารางข้อมูล 1 เดือนครึ่งแนบมาไว้ให้ในที่นี้ด้วย ช่วงวันที่ 1 มี.ค. 2022 สัดส่วนยังค่อนข้างโอเค ไม่เพี้ยนเยอะ แต่นับตั้งแต่ปลายมีนาเป็นต้นมาตัวเลขจริงน่าจะมากกว่าตัวเลขประกาศในระดับ 6 - 10 เท่าจริงๆ ซึ่งสอดคล้องกับสถิติคนโทรเข้าสายสปสช.
สงกรานต์กับความเข้าใจผิดครั้งใหญ่:
ผมทำ Model แล้วประเมินตัวเลขและกราฟที่ควรจะเป็นตั้งแต่ช่วง 31 มี.ค. เป็นต้นมามาให้ครับ ได้ข้อสรุปคือ
มองไปวันนี้และข้างหน้า:
สรุป:
สถานการณ์ดีขึ้นมาก เราได้ผ่านช่วงที่เลวร้ายที่สุดมาแล้ว เด็กๆที่ฉีดวัคซีนแล้วควรได้ไปโรงเรียน ธุรกิจต่างๆควรได้สิทธิกลับมาเปิดเต็มรูปแบบไม่มียกเว้น แต่สิ่งที่ยังต้องช่วยกันต่อเพื่อความยั่งยืน คือ ต้องไปฉีด Booster ให้ได้มากกว่า 60% ช่วยกันใส่หน้ากากกันให้เป็นปกติอีกสัก 1 ปี อย่าเพิ่งประมาท
ตัวเลขยังสูง ช่วยกันอีกสัก 2 เดือนกว่าให้ได้แบบนี้ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และกลุ่มเสี่ยงยังคงต้องการการปกป้อง แล้วช่วง 1 ส.ค. สถานการณ์ทุกอย่างจะกลับมาดีมากแบบที่เราแทบจะลืมไปแล้วกับ 2 ปีครึ่งที่หายไป และที่สำคัญที่สุดต้องไม่ลืมขอบคุณบุคลากรสาธารณสุขทุกท่าน เพราะพวกเขาได้แบกมานานแล้ว ยังแบกอยู่ และน่าจะยังคงต้องแบกต่อไปอีกสักพักใหญ่
กล้าพูดเลยว่า ถ้าไม่มีเขา พวกเราอีกมากมายคงไม่มีโอกาสได้มายืน ยิ้ม หัวเราะ Move On จนถึงตอนนี้อย่างแน่นอน