ข่าวโควิดวันนี้ ยอดติดเชื้อจริงอยู่ที่เท่าไหร่ เป็นขาลงใช่หรือไม่ อ่านเลย

16 พ.ค. 2565 | 22:11 น.
อัปเดตล่าสุด :17 พ.ค. 2565 | 10:42 น.

ข่าวโควิดวันนี้ ยอดติดเชื้อจริงอยู่ที่เท่าไหร่ เป็นขาลงใช่หรือไม่ อ่านเลยที่นี่มีคำตอบ สันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง มองไปข้างหน้า มองย้อนหลัง สิ่งที่เกิดขึ้นจริงช่วงสงกรานต์

ข่าวโควิดวันนี้ยังคงเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมากจากประชาชน ทั้งจำนวนของผู้ติดเชื้อในแต่ละวัน และผู้เสียชีวิต

 

นายสันต์ ศรีอรรฆ์ธำรง โพสข้อความผ่านเฟสบุ๊กส่วนตัว (Sunt Srianthumrong) โดยมีข้อความว่า

 

Covid-19: Back to School ประเมินสถานการณ์วันเปิดเทอมสำหรับผู้ปกครอง มองไปข้างหน้า มองย้อนหลัง สิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆช่วงสงกรานต์ ตัวเลขที่รับรู้กับตัวเลขที่ควรจะเป็นจริง

 

ข่าวดีที่สุดในรอบ 2 ปี 

 

คำแนะนำเบื้องต้น

 

  • ฉีดวัคซีนแล้วไปโรงเรียนได้ ไม่ควรต้องกังวลมากนัก
  • ยังต้องสวมหน้ากากและหมั่นล้างมือให้มากอยู่เสมอการระบาดยังคงรุนแรงแม้จะลดลงบ้างพอสมควรแล้ว
  • โรงเรียนควรยังต้องสุ่มตรวจ ATK สม่ำเสมอ เจอแน่นอน ตัดไฟแต่ต้นลมดีกว่า 
  • บ้านที่มีเด็กเล็กกว่า 5 ขวบ คนสูงอายุ คนกลุ่มเสี่ยงคนที่ยังไม่ฉีดวัคซีน ต้องระมัดระวังมากอีกพักใหญ่
  • ไปฉีด Booster กันให้มากที่สุด 

ขอย้ำว่า สิ่งที่เราเห็นไม่ใช่สิ่งที่เป็นจริง ไม่ได้ดีงามแบบนั้น แต่สิ่งที่เป็นจริงก็ไม่ได้เลวร้ายจนไปต่อไม่ได้ และเรากำลังเดินหน้าเข้าสู่ Endemic (โรคประจำถิ่น) แน่นอน เร็วๆนี้ 

 

ตัวเลขวันนี้: 

 

สัญญาณขาลงที่ชัดที่สุดในรอบ  4 เดือนครึ่ง: 

 

  • ผู้เสียชีวิต from Covid 40 คน ต่ำกว่า 50 ได้เป็นครั้งแรกถือเป็นข่าวดีมาก ว่าเราเป็นขาลงแน่นอนมาอย่างน้อย 19 วันแล้ว คือเป็นขาลงแน่นอนตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย. ถ้ารวม Die with Covid อีกประมาณ 55 - 65 คนก็จะประมาณ 100 คน ซึ่งก็ลงมาจากระดับสูงสุดแล้วประมาณ 30%
  • ผู้ป่วยปอดอักเสบลดลงมาประมาณ 40% จากระดับสูงสุด 2,104 มาอยู่ที่ 1,271
  • ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจลดลงมาประมาณ 35% จากระดับสูงสุด 940 มาอยู่ที่ 613

 

ตัวเลขนี้อีกไม่นานเข้า Endemic แน่นอน น่าจะเร็วกว่าที่คาดด้วย 

 

สิ่งที่ต้องย้ำเตือนใจ:

 

  • ผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจวันนี้ 613 ยังสูงเกินครึ่งหนึ่งของวันที่เลวร้ายที่สุดช่วง Delta ที่ 1,172 เมื่อวันที่ 15 ส.ค. 2021 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตถึงวันละ 200 -300 คน
  • ข้อ 1 หมายความว่าสำหรับหมอและพยาบาล สถานการณ์ยังหนักมาก ยังห่างไกลการเข้าสู่สภาวะปกติ
  • เศรษฐกิจที่เดินหน้า เด็กได้ไปโรงเรียน คนได้ไปเที่ยว Move On กันไปหมด ก็เพราะมีบุคลากรสาธารณสุขหน้างานนี่แหละที่แบกเอาไว้มา 2 ปีแล้ว และคงต้องแบกต่อไปอีกนาน 

ตัวเลขที่ประกาศกับตัวเลขที่น่าจะเป็นจริงมากกว่า: 

 

สังเกตุดีๆ เปรียบเทียบระหว่าง Delta (เดลตา) ที่ว่าแรง กับ Omicron (โอมิครอน) ที่ว่ากันว่าเบากว่า 10 เท่า แถมมีวัคซีนเยอะแล้วด้วย

 

Delta: ช่วงขาลง

 

17 ก.ย. 2021 ติดเชื้อใหม่ 14,555 ATK 1,630 ใส่ท่อช่วยหายใจ 787 ตาย 171 
Omicron: ช่วงขาลง

 

6 พ.ค. 2022 ติดเชื้อใหม่ 7,705 ATK 5,288 ใส่ท่อช่วยหายใจ 778 ตาย from Covid 62 ถ้ารวม with Covid ก็น่าจะประมาณ 125 - 130 คน

 

เห็นไหม ถ้าใช้ตัวเลขที่ประกาศ เสมือนกับว่า Omicron เจ็บหนักและตายพอๆกันถ้าติดเชื้อเท่าๆกัน และน่าจะรุนแรงกว่า Delta เสียอีกเพราะช่วงนี้เราฉีดวัคซีนไปมากกว่าปีที่แล้วอย่างมากด้วย 

 

ปัญหาของตัวเลข:

 

  • ATK ที่รวมมาไม่ครบ ATK ประกาศวันนี้ 3,445 แต่ถ้ารวม ATK แค่ที่ประกาจาก 8 จังหวัดคือ ชลบุรี โคราช อุบล ขอนแก่น เชียงใหม่ ระยอง อยุธยา เชียงราย จะได้ 6,455 ก็เกินไปเยอะแล้ว  
  • จากข้อ 1 ถ้าคูณสัดส่วนกับ RT-PCR จะได้ ATK ทั่วประเทศควรจะประมาณ 51,875 ถ้าคูณสัดส่วนประชากรจะได้ 36,745
  • พูดง่ายจากข้อ 2 ก็คือ เราประกาศ ATK ทั่วประเทศน้อยกว่าที่ควรจะเป็นจริงประมาณ 8 -10 เท่า

 

ผมทำตารางข้อมูล 1 เดือนครึ่งแนบมาไว้ให้ในที่นี้ด้วย ช่วงวันที่ 1 มี.ค. 2022 สัดส่วนยังค่อนข้างโอเค ไม่เพี้ยนเยอะ แต่นับตั้งแต่ปลายมีนาเป็นต้นมาตัวเลขจริงน่าจะมากกว่าตัวเลขประกาศในระดับ 6 - 10 เท่าจริงๆ ซึ่งสอดคล้องกับสถิติคนโทรเข้าสายสปสช.

 

ข่าวโควิดวันนี้ ติดเชื้อจริงอยู่ที่เท่าไหร่ เป็นขาลงใช่หรือไม่

 

สงกรานต์กับความเข้าใจผิดครั้งใหญ่:

 

ผมทำ Model แล้วประเมินตัวเลขและกราฟที่ควรจะเป็นตั้งแต่ช่วง 31 มี.ค. เป็นต้นมามาให้ครับ ได้ข้อสรุปคือ

 

  • มีการพบผู้ติดเชื้อด้วย ATK จำนวนมากช่วง 17 - 23 เม.ย. น่าจะเป็นผลมาจากสงกรานต์
  • จุดสูงสุดการระบาดมีผู้ติดเชื้อต่อวันประมาณ 180,000 คน
  • ตัวเลขระดับใกล้ 180,000 นี้เกิดต่อเนื่องมาตั้งแต่ปลายมี.ค.แล้ว แต่หลังสงกรานต์มีกราฟก้อนใหญ่พิเศษ
  • การระบาดหนักยาวนานนี้สุดท้ายทำให้เราเข้าสู่ขาลงในช่วงตั้งแต่วันที่ 24-28 เม.ย. เป็นต้นมา
  • กราฟการระบาดขาขึ้นช่วงสงกรานต์สอดคล้องกับการระบาดหนักขึ้นในหลายจังหวัดภาคอีสานในช่วงนี้ด้วย อีสานขึ้นแต่ชลบุรีระยองลดนะครับ เห็นๆเลยว่าเกิดอะไรขึ้นครับ 
  • สาเหตุที่เป็นขาลงต้องดูจังหวัดระยองเป็นตัวอย่างที่ดีมาก ตรวจ ATK มากถึง 39,726 ตัวอย่าง ในวันที่ 20 เม.ย. การคัดกรองผู้เดินทางกลับมาทำงานจำนวนมากและการติดเชื้อสะสมที่มากพอ น่าจะช่วยกันทำให้กราฟเข้าขาลงได้สำเร็จ
  • เฉพาะเดินเม.ย. น่าจะมีคนติดเชื้อรวมกันไปกว่า 4.2 ล้านคน ภายในเดือนเดียว ในขณะที่ตัวเลข PCR ทางการแค่ 6 แสนคน ต่างกัน 7 เท่า

 

ข่าวโควิดวันนี้ ติดเชื้อจริงอยู่ที่เท่าไหร่ เป็นขาลงใช่หรือไม่

 

มองไปวันนี้และข้างหน้า:

 

  • วันนี้ตัวเลขติดเชื้อที่แท้จริงน่าจะอยู่แถววันละ 50,000 -70,000 ต่อวันอาจจะสูง แต่ไม่ใช่ตัวเลขที่น่ากังวลสำหรับ Omicron 
  • Wave นี้ลงมาจากจุดสูงสุดมากกว่าครึ่งแล้ว ถือว่าปลอดภัยมากแล้วในการที่จะผ่อนคลายกิจกรรมต่างๆ 
  • ผู้เสียชีวิตน่าจะลดลงเรื่อยๆ ในอีก 19 วันตัวเลขที่ประกาศน่าจะลดลงไปอยู่ราวๆ 20 - 30 เข้าใกล้ Endemic ได้
  • อัตราการเสียชีวิตของเราต่ำกว่า 0.1% มานานแล้ว น่าจะแถวๆ 0.05 - 0.08%
  • ข้อ 4 ยืนยันว่า วัคซีนและการรักษาของเราประสบความสำเร็จมาก 
  • ช่วง 1 ส.ค. 2022 ตัวเลขจะดีกว่าที่ผมประเมินไว้ช่วงก่อนหน้านี้มาก ตัวเลขที่ประกาศน่าจะอยูในระดับ 1,000 ส่วนตัวเลขจริงแถว 9,000 - 10,000 เราน่าจะเข้า Endemic ได้แน่นอน และบางทีเราอาจจะประกาศได้ก่อนตั้งแต่ช่วงกลาง มิ.ย.หรือ ก.ค. ด้วย
  • เปิดเทอมมีความเสี่ยงที่จะกระดอน แต่ถ้าช่วยกัน น่าจะเอาอยู่ อย่าเพิ่งลดการ์ดมากจนเกินไป 
  • สายพันธุ์ย่อยของ Omicron BA.4 BA.5 ที่กำลังระบาดใหม่ในแอฟริกาใต้ เข้าสู่จุดอิ่มตัวแล้ว Wave เล็กไม่น่ากังวลแล้ว และเราฉีดวัคซีนไปมากกว่าเขาเยอะ
  • มีความเป็นไปได้ว่าเรามีผู้เคยติดเชื้อไปแล้วราวๆ 15 ล้านคน หรือมากกว่า 20% ซึ่งการติดเชื้อระดับนี้ร่วมกับเปอร์เซ็นต์การได้รับวัคซีนที่ไปมากแล้วพอสมควร และระดับมาตรการต่างๆที่ยังคงมีอยู่ น่าจะเริ่มทำให้คนไทยเกิด Herd Immunity ที่เข้มแข็งร่วมกันแล้ว โชคดีมากที่ตัวเลขไม่ต้องไปไกลระดับ 50% ก่อนถึงจะเข้าสู่ขาลงเต็มตัว แต่ถ้าคิดจะถอดหน้ากาก ผมคิดว่า 20% ไม่น่าจะพอ

 

สรุป:

 

สถานการณ์ดีขึ้นมาก เราได้ผ่านช่วงที่เลวร้ายที่สุดมาแล้ว เด็กๆที่ฉีดวัคซีนแล้วควรได้ไปโรงเรียน ธุรกิจต่างๆควรได้สิทธิกลับมาเปิดเต็มรูปแบบไม่มียกเว้น แต่สิ่งที่ยังต้องช่วยกันต่อเพื่อความยั่งยืน คือ ต้องไปฉีด Booster ให้ได้มากกว่า 60% ช่วยกันใส่หน้ากากกันให้เป็นปกติอีกสัก 1 ปี อย่าเพิ่งประมาท

 

ตัวเลขยังสูง ช่วยกันอีกสัก 2 เดือนกว่าให้ได้แบบนี้ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และกลุ่มเสี่ยงยังคงต้องการการปกป้อง แล้วช่วง 1 ส.ค. สถานการณ์ทุกอย่างจะกลับมาดีมากแบบที่เราแทบจะลืมไปแล้วกับ 2 ปีครึ่งที่หายไป และที่สำคัญที่สุดต้องไม่ลืมขอบคุณบุคลากรสาธารณสุขทุกท่าน เพราะพวกเขาได้แบกมานานแล้ว ยังแบกอยู่ และน่าจะยังคงต้องแบกต่อไปอีกสักพักใหญ่ 

 

กล้าพูดเลยว่า ถ้าไม่มีเขา พวกเราอีกมากมายคงไม่มีโอกาสได้มายืน ยิ้ม หัวเราะ Move On จนถึงตอนนี้อย่างแน่นอน