วัคซีนโควิด ปัจจุบันมีหลายสูตรที่สามารถฉีดได้ โดยในเบื้องต้นต้องฉีดเข็มที่ 1 และ 2 ให้ครบตามมาตรฐาน
ส่วนเข็มกระตุ้นจะเป็นวัคซีนชนิดใดนั้น ขึ้นอยู่กับว่ามีการปูพื้นฐานการฉีดมากอย่างไร โดยเฉพาะในกรณของเด็ก
น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า
ข้อมูลเบื้องต้น วัคซีน Pfizer 3 เข็มในเด็กอายุ 6 เดือนถึง 4 ขวบ มีประสิทธิผล 80%
ในปัจจุบันนี้ เหลือกลุ่มเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบเพียงกลุ่มเดียว ที่ยังไม่มีการแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด
เนื่องจากงานวิจัยในกลุ่มดังกล่าว เกิดขึ้นได้ยากและต้องใช้เวลามาก
เนื่องจากเป็นเด็กเล็ก และพ่อแม่ผู้ปกครองมักไม่ยินยอมให้เข้าสู่โครงการวิจัย
อย่างไรก็ตาม มีพ่อแม่ผู้ปกครองส่วนหนึ่ง อยากให้ลูกของตนเองที่อายุต่ำกว่า 5 ขวบ ได้ฉีดวัคซีนก่อนที่จะส่งไปเข้าเนอสเซอรี่หรืออนุบาล จึงรอข้อมูลการศึกษาวิจัยในกลุ่มดังกล่าว
ขณะนี้มีข่าวน่าสนใจเบื้องต้นว่า บริษัท Pfizer ซึ่งเคยแถลงข่าวล้มเหลวของการฉีดวัคซีน 2 เข็มในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบเมื่อเดือนธันวาคม 2564
ได้ออกมาแถลงข่าวในวันนี้ว่า หลังจากที่วัคซีน 2 เข็มได้ผลไม่ค่อยดีนัก
จึงได้ทำการศึกษาว่า ถ้าเด็กกลุ่มดังกล่าวฉีดวัคซีน Pfizer 3 เข็ม ผลจะเป็นอย่างไร
โดยใช้ขนาด 1 ใน 10 ของผู้ใหญ่คือ 3 ไมโครกรัม ฉีดเข้ากล้ามในวันที่ 0 , 21 และ 2 เดือนหลังจากเข็มที่2
พบข้อมูลเบื้องต้นว่า มีความปลอดภัยอยู่ในระดับเดียวกับการฉีดวัคซีนหลอก
ยังไม่พบผลข้างเคียงเกี่ยวกับเรื่องกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ(อาจเกิดจากจำนวนตัวอย่างยังน้อยเกินไป)
ที่สำคัญคือมีประสิทธิผลในการป้องกันการติดเชื้อแบบแสดงอาการได้ประมาณ 80% ซึ่งดีกว่าการศึกษา 2 เข็มเมื่อเดือนธันวาคม 2564 มาก
ในขณะเดียวกันของ Moderna ก็กำลังศึกษาเรื่องวัคซีน 3 เข็มเช่นกัน
แต่สำหรับกรณี 2 เข็มในกลุ่มอายุหกเดือนถึงสองปีมีประสิทธิผล 51% และ 2-5 ขวบมีประสิทธิผล 27%
โดยวัคซีนของ Pfizer จะยื่นขออนุญาตต่อ USFDA ในวันที่ 21-22 มิถุนายน 2565 นี้
นับเป็นข่าวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองที่อยากจะส่งลูกไปเรียนอนุบาลและยังไม่มีการฉีดวัคซีน