ข่าวดี! กลางมิ.ย.นี้ "ถอดแมสก์"ที่โล่งได้

24 พ.ค. 2565 | 10:27 น.
อัปเดตล่าสุด :29 พ.ค. 2565 | 07:11 น.

โควิดเดินหน้าสู่โรคประจำถิ่น ปลัดสธ. เผย กลาง มิ.ย.นี้ "ถอดแมสก์"ได้ แต่ยังคงให้ใส่ไว้ใน 3 กรณี นำร่องกิจกรรมในการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับโควิด 19 อย่างปลอดภัย

วันนี้ (24 พ.ค.65) นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (ปลัด สธ.) เป็นประธานการประชุมสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ส่วนกลางและส่วนภูมิภาคนอกสถานที่ ครั้งที่ 3 ประจำปีงบประมาณ 2565 เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานสำคัญ รวมทั้งการเตรียมการของพื้นที่เพื่อรับการเปลี่ยนผ่านโรคโควิด-19 เข้าสู่การเป็น “โรคประจำถิ่น” 


ปลัด สธ. กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่า ดีขึ้นต่อเนื่องและเร็วกว่าฉากทัศน์ที่คาดการณ์ มั่นใจว่าจะเข้าสู่การเป็น “โรคประจำถิ่น” ตามเวลาที่วางแผนไว้ หน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่จึงต้องมีการบริหารด้านสังคมร่วมด้วย โดยนำร่องกิจกรรมในการใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับโควิด-19 อย่างปลอดภัยเพื่อสร้างความมั่นใจกับประชาชน

ทั้งนี้ประมาณกลางเดือนมิถุนายน จะปรับคำแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยใน 3 กรณี คือ 


1.กลุ่มผู้ป่วยหรือกลุ่มเสี่ยง 608 


2.อยู่ในสถานที่ปิด อากาศถ่ายเทไม่สะดวก 


3.กิจกรรมที่มีคนร่วมกันจำนวนมาก พร้อมทั้งขอให้สื่อสารไปถึงประชาชนให้ทราบการปฏิบัติตนและเรียนรู้ที่จะอยู่กับโรคโควิด-19 ต่อไป

 

ส่วนกรณีที่ไม่เกี่ยวข้องใน 3 ข้อนี้ สามารถ "ถอดแมสก์"ออกได้ในพื้นที่นำร่องที่มีความพร้อมตามเกณฑ์ คือ 

 

  • มีสถานการณ์ระบาดในระดับต่ำ 

 

  • มีการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้ตามเกณฑ์ 

 

  • ระบบการดูแลรักษาผู้ป่วยของสถานพยาบาลในพื้นที่มีความพร้อม

 

นพ.เกียรติภูมิ กล่าวว่า สำหรับเรื่องกัญชาทางการแพทย์ วันที่ 9 มิ.ย.นี้ จะครบกำหนด 120 วัน ที่การปลดล็อคกัญชาออกจากการเป็นยาเสพติดมีผลบังคับใช้ ประชาชนสามารถปลูกโดยไม่ต้องขออนุญาต เพียงแต่จดแจ้งผ่านแอปพลิเคชันหรือเว็บไซต์ของ อย. โดยจะมีกฎหมายเพื่อป้องกันไม่ให้มีการใช้กัญชาเสรีในทางที่ผิด ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของคณะกรรมาธิการ จึงต้องใช้กฎหมายด้านสาธารณสุขที่มีอยู่มาควบคุมกำกับก่อน เช่น พ.ร.บ.การสาธารณสุข

 

ขณะเดียวกันก็ให้ทุกหน่วยงานช่วยกันส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนได้ใช้ในครัวเรือน และพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพในการต่อยอดทางเศรษฐกิจ โดยในวันที่ 10-12 มิถุนายน 2565 จะมีการจัดมหกรรม “360 องศา ปลดล็อคกัญชา ประชาชนได้อะไร” ที่สนาม ช้างอินเตอร์เนชั่นแนลเซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อตอกย้ำและสร้างความมั่นใจในการปลูกและใช้ประโยชน์จากกัญชาด้วย