นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ (หมอมนูญ) ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว (หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC) โดยมีข้อความระบุว่า
เชื้อไวรัสโควิด-19 (Covid-19) มีการกลายพันธุ์ตลอดเวลา สายพันธุ์ที่ระบาดขณะนี้เป็นโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.2
ซึ่งหลบหลีกภูมิคุ้มกันจากวัคซีนและจากการติดเชื้อธรรมชาติได้ดีกว่าสายพันธุ์ เดิมๆ
ในอนาคตอันใกล้กำลังเปลี่ยนสายพันธุ์ อีกเป็น BA.4, BA.5
ปัจจุบันยอมรับแล้วว่าคนไทยต้องฉีดวัคซีนอย่างน้อย 3 เข็ม
สำหรับคนที่จัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยง 608 ควรรับอย่างน้อย 4 เข็ม
เนื่องจากคนไทยได้รับวัคซีนหลายสูตร สูตรไขว้ 2 เข็ม หรือ 3 เข็มก่อนหน้านี้ ไม่ว่าสูตรไหนก็ตาม ต้องปิดท้ายเข็มกระตุ้นด้วยวัคซีนชนิด mRNA ถึงจะปลอดภัย
ยกตัวอย่างสูตรที่ยังดีไม่เพียงพอ เช่น ซิโนแวค/ชิโนฟาร์ม 3 เข็ม หรือซิโนแวค 2 เข็มตามด้วยแอสตร้า 1 เข็ม
หรือได้รับแอสตร้าเซเนก้าเพียง 2 เข็ม จำเป็นต้องฉีดเข็มกระตุ้นด้วยวัคซีน mRNA คือไฟเซอร์หรือโมเดอร์นาอย่างน้อยอีก 1 เข็ม
สำหรับคนสูงอายุ คนที่มีโรคประจำตัวที่ได้รับวัคซีนแอสตร้าเซเนก้า 2 เข็ม
ตามด้วยวัคซีนไฟเซอร์หรือโมเดอร์นา 1 เข็ม สามารถป้องกันการป่วยหนัก/เสียชีวิตได้มากกว่า 90%
แต่ถ้าได้รับวัคซีน mRNA ปิดท้ายเพิ่มอีก 1 เข็มเป็นเข็มที่ 4 จะช่วยเพิ่มระดับภูมิคุ้มกันที่ลดลงเมื่อเวลาผ่านไป 4-5 เดือนให้สูงขึ้น
ทำให้ลดโอกาสการติดเชื้อทำให้ป่วยแบบมีอาการเล็กน้อย และเพิ่มระดับการป้องกันป่วยหนัก/เสียชีวิตมากถึง 99 %
กลุ่มเสี่ยง 608 ฉีดเข็ม 3 แล้ว 3 เดือนให้มารับเข็ม 4 เป็นวัคซีนไฟเซอร์หรือโมเดอร์นาได้
นอกกลุ่มเสี่ยง 608 รับเข็ม 3 แล้ว 4 เดือนให้มารับเข็ม 4 ได้เช่นกัน ปัจจุบันมีคำแนะนำให้ฉีดเข็มกระตุ้นเพิ่มอีกทุก 4 เดือน
หรืออยากจะรอฉีดวัคซีนรุ่นใหม่ ก็แล้วแต่ความสมัครใจของแต่ละคน
ในอนาคตอันใกล้ เราจะมีวัคซีน mRNA โมเดอร์นารุ่นใหม่ ที่ครอบคลุมทั้งสายพันธุ์โอมิครอนและสายพันธุ์ดั้งเดิม
ประสิทธิภาพจะดีกว่าเดิมมาก อาจจะฉีดเพียงปีละครั้งเหมือนวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่