วัคซีนเข็ม 5 ควรฉีดไหม กลุ่มไหนควร-ไม่ควรฉีด

04 ก.ค. 2565 | 05:49 น.
อัปเดตล่าสุด :04 ก.ค. 2565 | 13:00 น.

วัคซีนเข็ม 5 สู้โควิด ฉีดเป็นเข็มกระตุ้น หลายคนยังสงสัยว่า จำเป็นไหม ควรฉีดไหม เเล้วกลุ่มไหนควร-ไม่ควรฉีด กันเเน่

วัคซีนเข็ม 5 เป็นการ ฉีดเข็มกระตุ้น หลายคนยังสงสัยว่าจำเป็นหรือไม่ กระทั่งกรณีของ "อนุทิน ชาญวีรกุล” รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ฉีดวัคซีนโควิดเเล้ว 6 เข็ม แต่ยังติดโควิด เรื่องนี้ อธิบดีกรมควบคุมโรค ออกมาให้ข้อมูลว่า ขณะนี้ยังไม่มีคำแนะนำออกมาอย่างเป็นทางการ เพราะข้อมูลยังไม่เพียงพอ และการฉีดวัคซีนเข็มที่ 5 ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจแพทย์

แต่หากผู้ประสงค์จะรับก็ให้ติดต่อได้ที่หน่วยบริการฉีดวัคซีน โรงพยาบาล และสถานพยาบาล ซึ่งจะเป็นไปตามหลักการเดิมอย่างที่เคยปฏิบัติกันมา คือ พิจารณาระยะเวลาให้วัคซีนและชนิดวัคซีนตามดุลยพินิจของแพทย์ เช่น ผู้ที่อาจไปตรวจระดับภูมิฯ มาแล้วพบว่า ภูมิฯ ต่ำ หรือผู้ที่จะเดินทางไปต่างประเทศ อย่างผู้ที่จะไปประเทศญี่ปุ่น ที่กำหนดวัคซีนไฟเซอร์ ก็สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อขอรับได้ หรือผู้มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง แพทย์ก็จะพิจารณาวัคซีนเข็มกระตุ้นให้

สอดคล้องกับ น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา ระบุว่า จากการศึกษาติดตามประสิทธิผลการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดของประเทศไทย ซึ่งเป็นการศึกษาในช่วงเดือนมกราคม 2565

 

ฉีดวัคซีน 2 เข็ม

  • ไม่สามารถป้องกันการติดเชื้อของไวรัสโอมิครอนได้
  • แต่ป้องกันการเสียชีวิตได้ 79-85%

 

ฉีดวัคซีน 3 เข็ม

  • ช่วยป้องกันการติดเชื้อ 45-56%  
  • ป้องกันการเสียชีวิตได้ 87-98%

 

ฉีดวัคซีน 4 เข็ม

  • ป้องกันการติดเชื้อได้ 82-85%
  • การป้องกันการเสียชีวิตยังไม่ได้ข้อยุติ  แต่คาดว่าน่าจะมากกว่า 95% ขึ้นไป

 

สรุปว่า ควรฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 เพื่อเพิ่มประสิทธิผลการป้องกันการติดเชื้อของวัคซีน 3 เข็มในระดับ 45-56%  ขึ้นมาเป็น 82-85%

 

วัคซีนเข็มที่ 5  

  • ยังไม่มีการศึกษาวิจัยที่มากพอ
  • ประสิทธิผลของวัคซีน 4 เข็มถือว่าดีมากแล้ว
  • ยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องฉีดกระตุ้นเข็มที่ 5

 

ยกเว้นบางกลุ่มที่มีเหตุผลเฉพาะ

  • เป็นผู้ที่มีระดับภูมิคุ้มกันต่ำจากฉีดวัคซีน ทั้งจากการเป็นโรคภัยไข้เจ็บที่ได้รับยาบางชนิด หรือเป็นธรรมชาติของคนนั้นเองที่ตอบสนองต่อวัคซีนไม่ดี 
  • ผู้ที่ประสงค์จะฉีดวัคซีนเข็มที่ 4 ควรฉีดห่างจากเข็มที่ 3 อย่างน้อยตั้งแต่ 4 เดือนขึ้นไป เพราะการฉีดวัคซีนกระตุ้น (Booster) ยิ่งฉีดห่างจากเข็มก่อนหน้านั้นมากเท่าใด ก็จะได้รับระดับภูมิคุ้มกันที่สูงมากขึ้นเท่านั้น

 

ขณะที่ ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้เชี่ยวชาญไวรัสวิทยา ไบโอเทค สวทช. กล่าวว่า การฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นที่ 4-5 ว่า ควรดูที่ความเสี่ยงของแต่ละคน ถ้าเป็นกลุ่มเสี่ยง 608 ก็จำเป็น แต่สำหรับคนปกติที่ไม่มีความเสี่ยง ก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องฉีดกระตุ้น  ฉีดกระตุ้นวันนี้ อีก 2 เดือนผ่านไป ภูมิคุ้มกันก็เท่ากับวันนี้ ภูมิตกค่อนข้างไว

 

การฉีดวัคซีนที่เกินความจำเป็น

  • จะทำให้ร่างกายจดจำวัคซีนตัวเก่า เมื่อฉีดวัคซีนตัวใหม่
  • ร่างกายต้องใช้เวลานานมากที่จะสร้างภูมิคุ้มกัน
  • บางคนอาจไม่มีภูมิคุ้มกันขึ้นเลย เพราะร่างกายไม่ตอบสนอง อาจจะเป็นปัญหาระยะยาวของการใช้วัคซีนสูตรใหม่ในอนาคต