โอมิครอน BA.5 รุนแรงน้อยกว่า BA.2 เพราะอะไร เลยจุดพีคมาหรือยัง เช็คเลย

15 ก.ค. 2565 | 21:11 น.
อัปเดตล่าสุด :15 ก.ค. 2565 | 22:08 น.

โอมิครอน BA.5 รุนแรงน้อยกว่า BA.2 เพราะอะไร เลยจุดพีคมาหรือยัง เช็คเลยที่นี่มีคำตอบ หมอนิธิพัฒน์วิเคราะห์สถานการณ์โควิดหลังช่วงวันหยุดยาวห้าวัน

รศ.นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล (หมอนิธิพัฒน์) หัวหน้าสาขาวิชาโรคระบบการหายใจและวัณโรค ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว (นิธิพัฒน์ เจียรกุล) โดยมีข้อความระบุว่า 

 

เสร็จจากการสัมภาษณ์ทีวีเรื่องสถานการณ์โควิดหลังช่วงวันหยุดยาวห้าวัน ไม่รู้ตัวเองมองโลกสวยเกินไปหรือเปล่า 

 

ว่าหลังเดินทางกลับสู่ภูมิลำเนากันเรียบร้อยแล้วในอีกสองวันข้างหน้า สถานการณ์จะไม่บานปลายไปมากกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้

 

เหมือนที่เคยให้ความเห็นไว้ครั้งก่อนว่า หลังสงกรานต์จะไม่เกิดปรากฏการณ์เขื่อนแตก เพราะเขื่อนมันแตกไปก่อนสงกรานต์พอดี 

 

โดยพีคหลักโอมิครอนจากสายพันธุ์ย่อย BA.2 ช่วงนั้น ยอดผู้ติดเชื้อขึ้นไปถึงวันละแสนกว่า และผู้ป่วยอาการรุนแรงสะสมที่สองพันกว่า

 

ที่เป็นเช่นนี้เพราะส่วนตัวเห็นว่าพีครองของโอมิครอนจากสายพันธุ์ย่อย BA.5 น่าจะขึ้นสูงสุดแล้วในช่วง 26 มิ.ย. ถึง 9 ก.ค. 

โดยมีผู้ติดเชื้อราวครึ่งหนึ่งของพีคหลัก ตกราววันละห้าหมื่นกว่าคน คงที่มาตลอดและมีแนวโน้มอาจเริ่มลดลง 

 

โดยยอดผู้ป่วยอาการรุนแรงยังขึ้นไปไม่เกิน 800 

 

นั่นหมายถึงว่าความรุนแรงของ BA.5 อาจน้อยกว่า BA.2 ราว 20%

 

สนับสนุนเล็กๆ ด้วยข้อมูลจากบ้านริมน้ำ ที่นี่จำลองสถานการณ์ของกรุงเทพในภาพรวมได้ดี 

 

และน่าจะนำหน้าสถานการณ์ของประเทศในภาพรวมไปราวหนึ่งถึงสองสัปดาห์ 

 

โอมิครอน BA.5 รุนแรงน้อยกว่า BA.2 เพราะอะไร

 

วันนี้หลังตรวจเยี่ยมผู้ป่วยในไอซียูโควิด ทั้งเจ็ดรายตอนนี้อยู่ในช่วงปลอดภัยรอการฟื้นตัว 

 

คนไข้เช่นเดียวกันที่ตกค้างรอเตียงรับไว้ในโรงพยาบาลเริ่มลดลงกว่าเดิมเกือบครึ่ง 

 

สมาชิกบ้านริมน้ำที่ติดโควิดก็ลดลงจากหลักร้อยกว่าไปเหลือหลักสิบกว่า 
ต้องยืนยันอีกครั้งหลังวันหยุดยาวว่าจะมีการกระเพื่อมหรือไม่ ถ้าไม่กระเพื่อมมาก 

 

แสดงว่าเราผ่านพ้นพีครองที่ว่านี้ไปได้โดยไม่บอบช้ำมาก ซึ่งเราต่างจากหลายประเทศที่กำลังเผชิญปัญหาหนักอกจาก BA.5 ในขณะนี้

น่าจะเป็นเพราะบ้านเราติด BA.2 กันไปมากแล้ว และวินัยการใส่หน้ากากคนของเรายังเยี่ยมอยู่ 

 

แม้บางช่วงฝ่ายนโยบายจะมาชวนให้ถอดหน้ากากได้ ก่อนมาเปลี่ยนใจภายหลังเมื่อฝ่ายประชาชนไม่เอาด้วย

 

สำหรับคนที่รอลุ้นว่าปลายปีนี้ จะมีวัคซีนเข็มกระตุ้นที่ครอบคลุมสายพันธุ์ BA.4/BA.5 ออกมาให้ใช้งานกันได้นั้น 

 

อาจคงต้องรอข้อสรุปการตัดสินใจของบริษัทยักษ์ใหญ่ในการผลิตว่าจะเดินหน้าหรือไม่ 

 

เพราะวัคซีนเข็มกระตุ้นที่ครอบคลุมสายพันธุ์ BA.1 ที่เตรียมไว้ก็อาจไม่มีประโยชน์เพราะตลาดวายแล้ว 

 

จะเตรียมไว้ไล่ตามตัวใหม่ๆ พอถึงเวลาออกมาจริงก็อาจมีตัวใหม่กว่ามาอีก 

 

ท้ายสุดอาจจะใช้แค่เข็มกระตุ้นแบบเดิมๆ เพื่อป้องกันการป่วยรุนแรงอาจจะคุ้มค่ากว่า แล้วรอให้เชื้อสายพันธุ์ย่อยค่อยๆ หมดแรงกันไปเอง