ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์ และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรม และเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) โพสต์เฟสบุ๊กส่วนตัว (Anan Jongkaewwattana)โดยมีข้อความระบุว่า
เริ่มมีข้อมูลเกี่ยวกับ BA.2.75 ที่แพร่กระจายในอินเดีย ที่หลายคนกังวลว่าจะเป็นสายพันธุ์หลักมาแทน BA.5 ในอนาคต
เนื่องจาก BA.2.75 มีการเปลี่ยนแปลงบนโปรตีนสไปค์มากกว่าสายพันธุ์ BA.2 ทั่วไป
แต่การเปลี่ยนแปลงส่วนใหญ่ไปอยู่นอกส่วน RBD หรือส่วนที่สไปค์ถูกจับด้วยแอนติบอดี
ทำให้ความสามารถหนีภูมิคุ้มกันของ BA.2.75 เมื่อเทียบกับ BA.5 ไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่
ข้อมูลล่าสุดจากทีมวิจัยจีนได้ทดสอบภูมิคุ้มกันจากผู้ได้รับวัคซีน Sinovac 3 เข็ม
และติดเชื้อ BA.2 มาเปรียบเทียบกับไวรัสตัวแทนที่มีสไปค์รูปแบบต่างๆรวมไปถึง BA.4/5 และ BA.2.75 ด้วย
ผลออกมาดูเหมือนว่า ความสามารถในการหนีภูมิจากคนที่มีภูมิจากธรรมชาติ (BA.2) ของ BA.2.75 ยังสู้ BA.4/5 ไม่ได้ (217 vs. 175)
แสดงว่าการเปลี่ยนแปลงที่เยอะขึ้นใน BA.2.75 อาจจะช่วยเรื่องการจับกับโปรตีนตัวรับได้ง่ายขึ้นแต่ไม่ช่วยเรื่องหนีภูมิ
จึงทำให้เห็นว่าไวรัสตัวนี้วิ่งไวกว่าในอินเดีย
ผลที่น่าสนใจอีกชิ้นนึงคือ ภูมิจากคนติดเชื้อเดลตามา (ยังไม่มีภูมิจาก BA.2) สามารถถูก BA.2.75 หนีได้ดีกว่า
ซึ่งอาจจะอธิบายปรากฏการณ์ในอินเดียตอนนี้ได้ แต่ข้อมูลตัวอย่างยังน้อยคงใช้อ้างอิงไม่ได้
ข้อมูลอีกชุดนึงมาจากทีมญี่ปุ่นได้เปรียบเทียบความสามารถของยาชนิด Antibody รักษาที่ออกมาหลายผลิตภัณฑ์กับไวรัส BA.2.75 ก็พบว่า ไม่ได้แตกต่างจาก BA.2 ทั่วไปมากนัก
ที่น่าสนใจคือยา Evulsheld ที่ประเทศไทยจะนำมาใช้ดูเหมือนจะมีประสิทธิภาพในการป้องกัน BA.2.75 ดีกว่า BA.4/5 ด้วยซ้ำ ถือว่าเป็นข่าวดีมาก
ผมขอไม่เรียก BA.2.75 ว่า Centaurus ตามที่มีคนใช้กัน
ชื่อนี้ไม่ใช่ชื่อที่เป็นทางการและมีแนวโน้มจะเลิกใช้กัน เหมือนคำว่า Deltacron ในอดีต