โควิดวันนี้เกิดการระบาดระลอกย่อยใหม่ เพราะอะไร น่ากลัวแค่ไหน เช็คเลย

26 ก.ค. 2565 | 21:11 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ก.ค. 2565 | 00:02 น.

โควิดวันนี้เกิดการระบาดระลอกย่อยใหม่ เพราะอะไร น่ากลัวแค่ไหน เช็คเลยที่นี่มีคำตอบ หมอเฉลิมชัยชี้ผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยและผู้เสียชีวิต ขยับตัวเพิ่มขึ้นชัดเจน

น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า

 

โควิดไทยได้เกิดระลอกย่อยใหม่ขึ้นเรียบร้อยแล้ว มีจำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้ป่วยและผู้เสียชีวิต ขยับตัวเพิ่มขึ้นชัดเจน คิดเป็น 42-65% ของระลอกมกราคม 2565

 

จากสถานการณ์โควิดระบาดระลอกที่ 4 จากเชื้อไวรัสโอมิครอน ที่เรียกว่าระลอกมกราคม 2565 ได้ขึ้นสู่พีคหรือจุดสูงสุด ในช่วงมีนาคมถึงพฤษภาคม 2565

 

กล่าวคือ มีผู้ติดเชื้อรวมสูงสุด 72,478 ราย 

 

เมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2565

 

ผู้ป่วยอาการหนัก มีปอดอักเสบ 2123 เตียง 

 

เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2565

 

ผู้ป่วยอาการหนักมากต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ 940 เตียง เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2565

 

และผู้เสียชีวิต 129 ราย 

 

เมื่อวันที่ 20 เมษายน 2565

 

หลังจากนั้นสถิติทุกตัวก็เริ่มลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ที่เรียกว่าโควิดเริ่มเข้าสู่ขาลง

 

จนบางหน่วยงาน มีการคาดการณ์ว่าอาจจะเข้าสู่โรคประจำถิ่นนั้น

การคาดการณ์ดังกล่าว ก็ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ เพราะเกิดจากมีการผ่อนคลายมาตรการ ผ่านการส่งสัญญาณสาธารณะส่วนหนึ่ง

 

และไวรัสกลายพันธุ์เป็น BA.5 ที่มีความสามารถในการแพร่ระบาดมากขึ้นอีกส่วนหนึ่งประกอบกัน

 

จนถึงวันนี้ (26 กรกฎาคม 2565) แม้ไวรัส BA.5 จะไม่ได้มีความรุนแรงมากกว่าโอมิครอนสายพันธุ์ดั้งเดิม

 

แต่จากความสามารถในการแพร่ระบาดที่ถือว่าสูงสุดในทุกสายพันธุ์ขณะนี้คือ R0=18.6 เมื่อเทียบกับโอมิครอนสายพันธุ์ดั้งเดิมที่มีค่า R0= 9.5

 

โควิดวันนี้เกิดการระบาดระลอกย่อยใหม่

 

แปลว่าไวรัสปัจจุบัน มีความสามารถในการแพร่เร็วขึ้น 1.96 เท่า หรือ 96%

 

สะท้อนเป็นผลว่า มีผู้ติดเชื้อในเดือนนี้เพิ่มขึ้นถึง 40% จึงส่งผลให้จำนวนผู้ป่วยหนักและหนักมากรวมทั้งผู้เสียชีวิต ขยับตัวเพิ่มขึ้นตามมาด้วย ทั้งที่ความสามารถในการก่อโรคให้รุนแรงของ BA.5 ไม่ได้เพิ่มขึ้นก็ตาม

 

โดยพบว่า

  • ผู้ป่วยหนักมีปอดอักเสบ
  • เพิ่มขึ้น 11.8%
  • ผู้ป่วยหนักมากต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
  • เพิ่มขึ้น 18.1%
  • ผู้เสียชีวิต
  • เพิ่มขึ้น 12%

(เป็นการเปรียบเทียบช่วงวันที่ 21- 25 กรกฎาคม 2565 เปรียบเทียบกับวันที่ 11-15 กรกฎาคม 2565)

เมื่อนำตัวเลข ณ ปัจจุบัน เปรียบเทียบกับจุดสูงสุดหรือพีคของระลอกมกราคม 2565 พบว่า

  • ผู้ติดเชื้อขณะนี้อยู่ที่ระดับ 44.3% 
  • คือติดเชื้อ 32,117 ราย
  • เปรียบเทียบกับสูงสุด 72,478 ราย
  • ผู้ป่วยหนักมีปอดอักเสบ อยู่ที่ 42.5% 
  • จากปัจจุบันมี 903 เตียง
  • เปรียบเทียบจุดสูงสุด 2123 เตียง
  • ผู้ป่วยหนักมากต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ อยู่ที่ 46.8% 
  • จาก 440 เตียง 
  • เปรียบเทียบจุดสูงสุดที่ 940 เตียง

 

ผู้เสียชีวิตปัจจุบัน 35 รายต่อวันเปรียบเทียบกับผู้เสียชีวิต 54 ราย(สูงสุดเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ตามเกณฑ์ใหม่ที่ใช้ในการประกาศผู้เสียชีวิต จึงไม่ใช้ตัวเลข 129 รายต่อวันตามเกณฑ์เดิม)

 

คิดเป็น 64.8%

 

จึงพอจะสรุปได้ว่า

  • โควิดของไทย เข้าสู่ขาขึ้นระลอกย่อยใหม่แล้ว
  • มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 40% ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา
  • ผู้ป่วยอาการรุนแรงมีปอดอักเสบ เพิ่มขึ้น 11.8% ใช้เครื่องช่วยหายใจเพิ่มขึ้น 18.1%
  • มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 12%
  • ไวรัสสายพันธุ์หลักในปัจจุบันคือ BA.5 มีความสามารถในการแพร่เชื้อเพิ่มขึ้น 96% แต่การก่อโรคให้เกิดความรุนแรงยังเท่าเดิม
  • ตัวเลขสถิติต่างๆในปัจจุบัน อยู่ที่ระดับ 42-65% เมื่อเทียบกับจุดสูงสุดของระลอกมกราคม 2565

 

ขณะนี้ยังไม่ถึงจุดสูงสุดของระลอกย่อยใหม่ จะต้องติดตามต่อไปว่า ตัวเลขของระลอกย่อยนี้ จะมากน้อยเพียงใด เมื่อเทียบกับระลอกโอมิครอนมกราคม 2565