น.พ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ (หมอเฉลิมชัย) รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว "ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย" โดยมีข้อความว่า
ติดโควิดและกินยาจนหายดี มีผลเป็นลบ แต่กลับมาเจอผลบวกใหม่ได้ ด้วย พบทั้ง Paxlovid (แพ็กซ์โลวิด) และ Molnupiravir (โมลนูพิราเวียร์)
จากกรณีที่ประธานาธิบดี Biden ติดโควิด ได้ทานยา Paxlovid ไป 5 วัน ครบตามขนาดการรักษา
มีผลตรวจเป็นลบ 4 วันติดต่อกัน พอวันที่ 5 เกิดมีผลเป็นบวกใหม่อีกครั้ง ซึ่งใช้ภาษาว่า “Rebound Infection “ นั้น
รายงานในสหรัฐฯ ที่มีมาอย่างต่อเนื่องนั้นพบว่า เกิดหลังจากใช้ยาต้านไวรัสที่ชื่อว่า Paxlovid
ขณะนี้ ในประเทศไทยก็พบเหตุการณ์เดียวกันแล้ว โดยทางกรมการแพทย์ได้ออกมาแจ้งว่า พบผู้ป่วยอย่างน้อย 2 ราย ที่ทานยาต้านไวรัส Molnupiravir แล้วกลับมามีผลเป็นบวกอีกครั้งหนึ่ง
วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจรายละเอียดเรื่องนี้กัน
คำว่า Rebound Infection หมายความว่า มีการติดโควิดที่ได้รับการวินิจฉัยยืนยันชัดเจน จากการตรวจหาแอนติเจน หลังจากนั้นได้รับยาต้านไวรัส เมื่อทานครบคอร์สจนหายดีแล้ว พบว่ากลับมาติดได้อีก
ซึ่งขณะนี้รายงานการศึกษาอย่างน้อย 3 ชิ้นด้วยกัน ได้แก่
ที่ตีพิมพ์ลงในวารสาร MMWR
วารสาร Clinical Infectious Diseases และรายงานการศึกษาของบริษัทยา Pfizer เอง
พบว่ามีโอกาสที่จะเจอ Rebound ประมาณ 1-2% โดยส่วนใหญ่จะมีอาการไม่ค่อยรุนแรงนัก และมักพบในคนที่มีอายุมากกว่า 65 ปี หรือมีโรคประจำตัว
อย่างไรก็ตาม มีส่วนหนึ่งที่อาการหนักจนต้องนอนโรงพยาบาล หรือต้องไปห้องฉุกเฉินด้วยเช่นกัน
ที่สำคัญมีรายงานชัดเจนว่า คนที่กลับมามีเชื้อใหม่ สามารถแพร่เชื้อให้ผู้อื่นได้ อย่างน้อยก็มีรายงานว่า
ชายอายุ 67 ปี ได้ยาไป 5 วัน จนหายดีไป 7 วัน ได้นำเชื้อกลับมาติดให้หลานวัย 6 เดือน
อีกรายเป็นชาย 63 ปี หลังจากหายไปแล้ว 3 วัน ก็กลับมาแพร่เชื้อให้สมาชิกในครอบครัวอีก 2 คน
ขณะนี้ทางการของสหรัฐอเมริกาได้ให้คำแนะนำว่า เมื่อเกิดกรณี Rebound Infection จะต้องทำการกักตัวใหม่อย่างน้อย 5 วัน แล้วต้องใส่หน้ากากไปอีกอย่างน้อย 10 วันเพราะสามารถที่จะแพร่เชื้อได้
เรื่องทั้งหมดเป็นเรื่องของ Paxlovid ซึ่งมีประสิทธิผลเกือบ 90%
โดยได้มีนักวิชาการ ทำการศึกษาหาสาเหตุ พบว่าน่าจะเกิดจากการที่ปริมาณยาเข้าไปถึงเซลล์ที่มีไวรัสในจำนวนที่ไม่สูงพอที่จะฆ่าเชื้อไวรัสทั้งหมด ไม่ได้เกิดจากไวรัสดื้อต่อยา หรือเกิดจากผู้ติดเชื้อมีภูมิคุ้มกันที่ไม่สูงพอแต่อย่างใด
ส่วนประเทศไทย ซึ่งได้ใช้ Molnupiravir แล้ว ซึ่งมีประสิทธิผลน้อยกว่า Paxlovid ก็เพิ่งมีรายงานพบ Rebound Infection ด้วย 2 ราย
จึงเป็นข้อมูลใหม่ ที่จะต้องติดตามโดยใกล้ชิดต่อไป สำหรับผู้ที่ติดเชื้อจนมีอาการเข้าเกณฑ์ต้องได้รับยาต้านไวรัส
ก็คงประมาทไม่ได้ เมื่อรับยาครบคอร์สแล้ว อาจจำเป็นจะต้องตรวจดูผลทดสอบ รวมทั้งสังเกตอาการด้วยว่าจะมีอาการติดเชื้อกลับขึ้นมาใหม่หรือไม่