ติดโควิดกินยาอะไรบ้าง เป็นคำถามที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก หลังจากที่ปัจจุบันเริ่มมีประเด็นเรื่องของการกินยาจนหาย แต่ผลตรวจกลับมาติดเชื้ออีกในรอบ 10 วัน เช่น กรณีของ "โจ ไบเดน" ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
พล.อ.ท.อนุตตร จิตตินันทน์ (หมออนุตตร) อดีตประธานราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย ที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว (Anutra Chittinandana) โดยมีข้อความว่า
แนวทางเวชปฏิบัติการรักษา COVID-19 (โควิด-19) ที่ออกมาเมื่อ 11 ก.ค.65 มีข้อบ่งชื้ในการใช้ยาต้านไวรัสชัดเจน และมีลำดับการใช้ยาชัดเจน น่าจะบริหารจัดการให้ผู้ป่วยที่มีข้อบ่งชี้ได้รับยาตามแนวทางเวชปฏิบัติที่เขียนไว้อย่างทั่วถึง
โดยเฉพาะผู้ป่วยกลุ่มที่ 3 ที่แนวทางนี้บอกว่ามีปัจจัยเสี่ยงเพียงข้อเดียวก็น่าจะได้รับยาต้านไวรัสแล้ว โดยเรียงลำดับให้ Molnupiravir (โมลนูพิราเวียร์) เป็นอันดับแรก ซึ่งจะช่วยลดการนอนโรงพยาบาลและอาการหนัก ถ้าได้รับยาต้านไวรัสโดยเร็ว ช่วยลดปัญหาเรื่องเตียง COVID-19 ในโรงพยาบาลต่าง ๆ ด้วย
แนวทางเวชปฏิบัติ การวินิจฉัย ดูแลรักษา และป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ฉบับปรับปรุง วันที่ 11 กรกฎาคม 2565
การรักษา COVID-19 แบ่งเป็น 4 กลุ่ม
1. ผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรือสบายดี (Asymptomatic COVID-19) ไม่ให้ยาต้านไวรัส อาจพิจารณาให้ยาฟ้าทะลายโจรตามดุลยพินิจของแพทย์
2. ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง ไม่มีปอดอักเสบ ไม่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง/โรคร่วมสาคัญและภาพถ่ายรังสีปอดปกติ (Symptomatic COVID-19 without pneumonia and no risk factors for severe disease) อาจพิจารณาให้ favipiravir ควรเริ่มยาโดยเร็วที่สุด ตามดุลยพินิจของแพทย์
3. ผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง แต่มีปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรงหรือมีโรคร่วมสำคัญ หรือ ผู้ป่วยที่ไม่มีปัจจัยเสี่ยงแต่มีปอดอักเสบ (pneumonia) เล็กน้อยถึงปานกลางยังไม่ต้องให้ oxygen
ปัจจัยเสี่ยงต่อการเป็นโรครุนแรง ได้แก่
*ลำดับการให้ยากลุ่มที่มีปัจจัยเสี่ยง 1 ข้อ ดังนี้
4. ผู้ป่วยยืนยันที่มีปอดอักเสบที่มี hypoxia (resting O2 saturation ≤94% ปอดอักเสบรุนแรง ไม่เกิน 10 วัน หลังจากมีอาการ และได้รับ oxygen แนะนำให้ remdesivir โดยเร็วที่สุดเป็นเวลา 5-10 วัน