thansettakij
ส่องมาตรฐานก่อสร้าง ตึกสูงในกรุงเทพฯ รับแผ่นดินไหวได้แค่ไหน

ส่องมาตรฐานก่อสร้าง ตึกสูงในกรุงเทพฯ รับแผ่นดินไหวได้แค่ไหน

28 มี.ค. 2568 | 12:50 น.
อัปเดตล่าสุด :28 มี.ค. 2568 | 12:51 น.

อาคารสูงในกรุงเทพฯ ต้องออกแบบให้รองรับแรงแผ่นดินไหวได้ถึงระดับไหน สำรวจมาตรฐานกฎหมายไทย ตั้งแต่ปี 2540 ถึงฉบับล่าสุดปี 2564

หลังเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในเมียนมา ขนาด 8.2 แมกนิจูด จนแรงสั่นสะเทือนส่งมาถึงกรุงเทพฯ หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า “ตึกที่เราอยู่จะรับมือไหวไหม” โดยเฉพาะอาคารสูงที่มักโยกหรือสั่นเมื่อมีแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวในภูมิภาค

แผ่นดินไหวรู้สึกได้ถึงทั่วกรุงเทพฯ แผ่นดินไหวรู้สึกได้ถึงทั่วกรุงเทพฯ

คำถามสำคัญจึงอยู่ที่ว่า ตึกในไทย โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ออกแบบให้รองรับแรงแผ่นดินไหวได้มากแค่ไหน เราสามารถสังเกตหรือประเมินความปลอดภัยของอาคารได้อย่างไร

กฎหมายไทยรองรับแผ่นดินไหวตั้งแต่เมื่อไหร่

ประเทศไทยเริ่มมีกฎหมายควบคุมการออกแบบอาคารให้ต้านทานแผ่นดินไหวตั้งแต่ปี 2540 และมีการอัปเดตเพิ่มเติมอีก 2 ครั้ง รวมเป็น 3 ฉบับสำคัญ

กฎกระทรวงปี 2540  ฉบับแรก

เริ่มบังคับให้อาคารสูงเกิน 15 เมตร (ประมาณ 5 ชั้นขึ้นไป) ใน 10 จังหวัดเสี่ยงแผ่นดินไหว เช่น เชียงใหม่ เชียงราย ตาก กาญจนบุรี ฯลฯ ต้องออกแบบให้ต้านทานแผ่นดินไหว เพราะอยู่ใกล้รอยเลื่อนทางธรณีวิทยา

กฎกระทรวงปี 2550  ขยายพื้นที่

เพิ่มพื้นที่บังคับใช้มาถึง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ได้แก่ นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ สมุทรสาคร
แม้จะไม่ได้อยู่ใกล้รอยเลื่อน แต่โครงสร้างดินในพื้นที่เหล่านี้ค่อนข้างนุ่ม ทำให้แรงสั่นจากแผ่นดินไหวที่เกิดไกล ๆ ยังส่งผลสะเทือนแรงกว่าที่คาด

กฎกระทรวงปี 2564  อัปเดตล่าสุด

  • ประกาศใช้ปลายปี 2564 ยกเลิกฉบับเก่าและ ปรับปรุงใหม่ทั้งหมด
  • แบ่งโซนความเสี่ยงใหม่เป็น 3 ระดับ โซน 1 เสี่ยงน้อย โซน 2 ปานกลาง ส่วน โซน 3 เสี่ยงสูง
  • ขยายพื้นที่ควบคุมให้ครอบคลุมกว่า 40 จังหวัด

ควบคุมอาคารหลากหลายประเภท ไม่ใช่แค่ตึกสูง เช่น อาคารสาธารณะ บ้านจัดสรรในพื้นที่เสี่ยง หรือสถานที่คนแออัด ปัจจุบัน หากจะสร้างอาคารใหม่ ต้องยึดตามกฎหมายปี 2564 เป็นหลัก ซึ่งเข้มงวดและครอบคลุมที่สุด

ตึกในกรุงเทพฯ รองรับแรงแผ่นดินไหวได้แค่ไหน

หลักการสำคัญของกฎหมายไทยคือ ให้อาคารสามารถต้านทานแผ่นดินไหวระดับรุนแรงที่ อาจเกิดขึ้นในไทยได้ โดยทั่วไปออกแบบเพื่อรองรับแรงสั่นสะเทือนที่เทียบเท่ากับแผ่นดินไหวระดับ 7.0–7.5 ริกเตอร์ ซึ่งประเทศไทยเคยเกิดแผ่นดินไหวสูงสุด 6.5 ริกเตอร์ที่จังหวัดน่านเมื่อปี 2478 

ภาพอาคารที่พังถล่มหลังจากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงที่ใจกลางเมียนมาร์เมื่อวันศุกร์ หน่วยงานเฝ้าระวังแผ่นดินไหวรายงาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อกรุงเทพฯ เช่นกัน โดยผู้คนทยอยออกมาจากอาคารหลังจากเกิดแผ่นดินไหวในเมืองหลวงของไทย ในกรุงเทพฯ ประเทศไทย 28 มีนาคม 2568 REUTERS ภาพอาคารที่พังถล่มหลังจากเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงที่ใจกลางเมียนมาร์เมื่อวันศุกร์ หน่วยงานเฝ้าระวังแผ่นดินไหวรายงาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อกรุงเทพฯ เช่นกัน โดยผู้คนทยอยออกมาจากอาคารหลังจากเกิดแผ่นดินไหวในเมืองหลวงของไทย ในกรุงเทพฯ ประเทศไทย 28 มีนาคม 2568 REUTERS

  • อาคารในกรุงเทพฯ ต้องรับแรงสั่นสะเทือนที่มากระแทกอาคารได้ คิดเป็นสัดส่วน 4-12% ของน้ำหนักอาคาร (4-12% ของแรง Gravity)
  • อาคารในจังหวัดกาญจนบุรีและภาคเหนือต้องรับแรงสั่นสะเทือนคิดเป็นสัดส่วน 4-15% ของน้ำหนักอาคาร เพราะอยู่ใกล้ศูนย์กลางเกิดแผ่นดินไหวมากกว่า