ภาวะ MIS-C ในเด็กสามารถรักษาได้หรือไม่ เช็คที่นี่

23 ก.ค. 2565 | 06:54 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ก.ค. 2565 | 13:58 น.

รู้จักภาวะ MIS-C อาการที่พบในเด็กหลังติดเชื้อโควิด19 เช็คเลยอาการของโรคเป็นแบบไหนพร้อมแนะแนวทางการรักษา

กรมการแพทย์ โดยสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี เปิดเผยว่า จากการระบาดของโรค COVID-19 ส่งผลให้มีเด็กอายุ 0-18 ปีติดเชื้อโควิดเพิ่มขึ้น และคาดว่าจะทำให้มีการพบผู้ป่วย MIS-C (มิสซี) เพิ่มขึ้นเช่นกัน เนื่องจากเป็นอาการที่พบในเด็กหลังติดเชื้อโควิด19

 

สำหรับภาวะ MIS-C (มิสซี) เป็นกลุ่มอาการอุบัติใหม่ที่พบในเด็กซึ่งร่างกายมีการอักเสบหลายระบบหลังจากมีการติดเชื้อ SARS- CoV-2 สาเหตุเชื่อว่าเกิดจากการตอบสนองของภูมิคุ้มกันในร่างกายต่อเชื้อไวรัสนี้ที่มากเกินไป ทำให้เกิดความผิดปกติของร่างกายหลายระบบตามมา ภาวะนี้พบได้ในเด็กทุกกลุ่มอายุ อุบัติการณ์ประมาณร้อยละ 0.03 ของผู้ป่วยเด็กที่เป็น COVID-19 
 

อาการคล้ายโรคคาวาซากิ

  • ผู้ป่วยจะมีอาการไข้ ผื่น ตาแดง อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายเหลว อาจมีภาวะช็อคที่เกิดจากการอักเสบที่หัวใจ หรือหลอดเลือดหัวใจโป่งพองซึ่งเป็นอันตรายถึงเสียชีวิตได้ 

การรักษา 

  • ในประเทศไทยพบผู้ป่วย MIS-C แล้วมากกว่า 100 ราย ทั่วประเทศ ภาวะนี้ควรได้รับการรักษาด้วยอิมมูโนโกลบูลินและยากดภูมิคุ้นกัน 
  • ผู้ป่วยที่อาการรุนแรงจำเป็นต้องนอนโรงพยาบาล ร้อยละ 30 ของผู้ป่วยต้องนอนในไอซียูเพื่อให้ยารักษาและติดตามอาการอย่างใกล้ชิด
  • ถ้ารักษาหายแล้ว พิจารณาติดตามดูการรักษาอย่างต่อเนื่องอย่างน้อย 1 ปี
     

 

ภาวะ MIS-C ในเด็กสามารถรักษาได้

นายแพทย์อดิศัย  ภัตตาตั้ง ผู้อำนวยการสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมีการพบผู้ป่วย MIS-C จำนวน 51 ราย อายุตั้งแต่ 9 เดือน ถึง 11 ปี อายุเฉลี่ย 4.8 ปี ผู้ป่วยมักมาด้วยไข้ ผื่น และ อาการทางระบบทางเดินอาหารร่วมด้วย ในเด็กเล็กมักมีอาการตาแดง ปากแดง มือเท้าบวม คล้ายโรคคาวาซากิ 

 

การตรวจเลือดจะพบค่าการอักเสบที่เพิ่มขึ้นผิดปกติ ผู้ป่วยร้อยละ 27  มีภาวะช็อค จำเป็นต้องให้การรักษาในหอผู้ป่วยวิกฤต ผู้ป่วยบางคนมีเส้นเลือดหัวใจโป่งพองคล้ายกับโรคคาวาซากิ ผู้ป่วยเกือบทั้งหมดมีการตอบสนองต่อการรักษาดี การทำงานของหัวใจกลับมาทำงานเป็นปกติร้อยละ 90 ระยะเวลาที่รักษาในหอผู้ป่วยวิกฤตขึ้นกับความรุนแรงและการตอบสนองต่อการรักษา

 

ในสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี พบการเสียชีวิตจากภาวะนี้จากเส้นเลือดหัวใจโป่งพอง 1 ราย การวินิจฉัยและการรักษาที่ทันท่วงทีจะช่วยชีวิตผู้ป่วยโรคนี้และลดภาวะแทรกซ้อนได้