ดร.อนันต์ จงแก้ววัฒนา ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยนวัตกรรมสุขภาพสัตว์ และการจัดการ ศูนย์พันธุวิศวกรรม และเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ (ไบโอเทค) โพสต์เฟสบุ๊กส่วนตัว (Anan Jongkaewwattana)โดยมีข้อความระบุว่า
ภูมิคุ้มกันจากวัคซีนฝีดาษในอดีต กับ ไวรัสฝีดาษลิงปัจจุบัน
เชื่อว่าหลายคนสงสัยว่าเคยปลูกฝีมาแล้วในอดีตยังมีภูมิอยู่หรือไม่ และจะสามารถป้องกันการติดเชื้อฝีดาษลิงสายพันธุ์ปัจจุบันได้มากแค่ไหน
เนื่องจากวัคซีนฝีดาษพัฒนามาจากไวรัส Vaccinia ซึ่งเป็น Poxvirus สายพันธุ์เก่าแก่มาก ที่มีความใกล้เคียงกันกับทั้งไวรัสฝีดาษคน
และฝีดาษลิงในระดับนึง ความแตกต่างระหว่างไวรัสทำให้มีความสงสัยว่าภูมิจากไวรัสเก่าแก่อย่าง Vaccinia ยังสามารถข้ามมายับยั้งไวรัสสายพันธุ์ปัจจุบันของฝีดาษลิงได้มากน้อยขนาดไหน
และเนื่องจากมีผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงในกลุ่มอายุ 50 ปีขึ้นไปพอสมควร ทำให้มีความสนใจว่าภูมิจากวัคซีนในอดีตของกลุ่มนี้เหลืออยู่เท่าไหร่กันแน่ ซึ่งดูเหมือนไม่พอในการป้องกัน
ทีมวิจัยในประเทศเนเธอแลนด์ได้ทำการตรวจสอบซีรั่มที่เพิ่งก็บจากคนที่เกิดก่อนปี 1974
เทียบกับคนที่เกิดหลังจากนั้น เนื่องจากวัคซีนฝีดาษหยุดฉีดในประเทศตั้งแต่ปี 1974 โดยตรวจดูภูมิต่อไวรัส Vaccinia พบว่า
ถึงแม้จะฉีดวัคซีนมานานเกือบ 50 ปีแล้ว แอนติบอดีต่อ Vaccinia จะสามารถตรวจพบได้อยู่เทียบกับกลุ่มที่ไม่เคยฉีดวัคซีน
โดยระดับแอนติบอดีมีความหลากหลาย คนที่ฉีดก่อนก็ไม่ได้มีน้อยไปกว่าคนฉีดที่หลัง
ทีมวิจัยถามต่อว่าภูมิต่อ Vaccinia ที่ตรวจได้ สามารถจับและยับยั้งไวรัสฝีดาษลิงสายพันธุ์ปัจจุบัน (MPXV) หรือไม่
คำตอบคือมี เทียบกับกลุ่มที่ไม่มีภูมิเลย แต่ระดับที่ตรวจได้จะไม่ค่อยมากเท่าไหร่ ได้ค่าประมาณ 50-60 (บางคนสูงถึง 600 บางคนไม่พบเลย)
ซึ่งตอนนี้ยังไม่ชัดว่าค่าแอนติบอดีต่อ MPXV เท่าไหร่ถึงจะพอป้องกัน [แต่ถ้าดูต่อไปด้านล่างอาจจะอนุมานคร่าวๆได้ว่าควรจะประมาณ 160?]
ที่น่าสนใจคือ ทีมวิจัยตรวจภูมิคุ้มกันในกลุ่มที่ติดเชื้อฝีดาษลิงมา (กลุ่ม PCR positive) พบว่า
กลุ่มที่เคยฉีดวัคซีนมาในอดีตสามารถกระตุ้นภูมิต่อ Vaccinia ที่เคย Prime มาได้สูงมาก
แต่ถ้าเทียบภูมิที่จำเพาะต่อฝีดาษลิงในกลุ่มที่เคยฉีดและไม่เคยฉีดวัคซีนมาก่อน
ทีมวิจัยไม่เห็นความแตกต่างในทั้งสองกลุ่ม ภูมิของคนที่ไม่เคยฉีดวัคซีนที่จำเพาะต่อฝีดาษลิงสูงไปที่ ประมาณ 160
ซึ่งเท่ากับกลุ่มที่เคยมีภูมิจาก Vaccinia และไปติดฝีดาษลิง ผลการทดลองนี้อาจเกิดคำถามว่า
ภูมิจาก Vaccinia ในอดีตอาจจะถูกกระตุ้นจากวัคซีนฝีดาษลิงไม่ค่อยดีพอ
เพราะ B cell ที่มีความทรงจำต่อวัคซีนเดิมอาจจะไม่ค่อยรู้จักไวรัสตัวใหม่เท่าไหร่แล้ว
ทีมวิจัยยังถามต่อไปว่า วัคซีนฝีดาษ MVA-BN ที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งพัฒนามาจาก Vaccinia เช่นกัน
สามารถกระตุ้นภูมิต่อไวรัสฝีดาษลิงได้ระดับใด ในกลุ่มที่มีภูมิต่อวัคซีนเก่าแต่มีภูมิต่อฝีดาษลิงในระดับค่อนข้างสูง
การฉีดกระตุ้นซ้ำดูเหมือนจะไม่ค่อยเห็นระดับของแอนติบอดีที่สูงขึ้น
นอกจากนี้กลุ่มที่ไม่เคยมีภูมิจากในอดีตมา ก็มีภูมิต่อไวรัสฝีดาษลิงไม่มากเช่นเดียวกัน ที่ 4 สัปดาห์หลังเข็มสอง
ระดับยังได้เพียงแค่ 20 ซึ่งดูจะน้อยไปในการป้องกัน ทีมวิจัยระบุว่าการกระตุ้นด้วยเข็ม 3 ดูเหมือนจะจำเป็น
และการลดโด๊สลงเป็นการฉีดแบบใต้ผิวหนังอาจจำเป็นต้องศึกษาอย่างระมัดระวัง