รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความ
Favipiravir (ฟาวิพิราเวียร์) สำหรับโรคโควิด-19
Golan Y และคณะ ได้เผยแพร่ผลการวิจัยที่สำคัญมาก เผยแพร่ในวารสารการแพทย์โรคติดเชื้อระดับโลก Clinical Infectious Diseases วันที่ 6 กันยายน 2565
เป็นการศึกษาทางคลินิก แบบสุ่ม และมีกลุ่มควบคุม (Randomized double-blinded controlled trial)
โดยทำแบบสหสถาบัน 27 แห่งในอเมริกา 7 แห่งในเม็กซิโก และอีก 7 แห่งในบราซิล
ในกลุ่มประชากรขนาดใหญ่จำนวน 1,187 คนที่ติดเชื้อโรคโควิด-19 ซึ่งมีอาการน้อยถึงปานกลาง
และศึกษาประสิทธิผลของ Favipiravir เปรียบเทียบกับกลุ่มที่ได้ยาหลอก
สาระสำคัญคือ ทั้งสองกลุ่มไม่ได้แตกต่างกัน ทั้งในเรื่องระยะเวลาที่ใช้จนอาการดีขึ้น
ระยะเวลาจนตรวจไวรัสไม่พบ สัดส่วนของคนที่ตรวจไม่พบไวรัสหลังสิ้นสุดการรักษา
ทั้งนี้กลุ่มที่ใช้ยา Favipiravir นั้นพบว่ามีอัตราการเกิดปัญหากรดยูริคในเลือดสูง
มากกว่ากลุ่มที่ได้ยาหลอกถึง 7 เท่า (19.9% ในกลุ่ม Favipiravir และ 2.8% ในกลุ่มที่ได้ยาหลอก)
ผลสรุปจากการวิจัยคือ กลุ่มผู้ป่วยโรคโควิด-19 ที่มีอาการน้อยถึงปานกลางที่ได้รับยา Favipiravir นั้น
มีผลลัพธ์ที่ไม่แตกต่างจากกลุ่มที่ได้ยาหลอก
ผลการศึกษานี้มีความสำคัญต่อเรื่องนโยบายการใช้ยาต้านไวรัสเพื่อรักษาโรคโควิด-19 ของแต่ละประเทศ
และที่สำคัญยิ่งคือ เป็นความรู้ที่จะช่วยให้ประชาชนและผู้ป่วยได้ใช้ในการตัดสินใจประพฤติปฏิบัติ
ตัดสินใจระหว่างการรับบริการดูแลรักษาได้อย่างถูกต้องเหมาะสม