นายแพทย์สุระ วิเศษศักดิ์ อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ประเทศไทยในช่วงเดือนมีนาคมและเมษายนของทุกปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งปีนี้หลายพื้นที่มีอากาศร้อนมากกว่าปีที่ผ่านมา อุณหภูมิอาจจะสูงถึง 40-43 องศาเซลเซียส ซึ่งความร้อนจากแสงแดดส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
ทั้งนี้ ทำให้มีความเสี่ยงในการเกิดโรคและภัยสุขภาพต่างๆ หากอยู่กลางแดดเป็นเวลานาน อาจส่งผลให้เกิดผื่น ตะคริวจากความร้อน เป็นลมแดด ฮีทสโตรก และเสี่ยงต่อชีวิตได้
และหากมีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคความดันโลหิตสูง พักผ่อนไม่เพียงพอ จะทำให้เพลีย อาจทำให้เกิดการวูบ และพลัดตกจากที่สูงได้
โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง เช่น ตำรวจจราจร พนักงานรักษาความปลอดภัย คนสวน กรรมกรก่อสร้าง เกษตรกร ประมง พนักงานงานส่งของ ไรเดอร์ และพนักงานที่ต้องอยู่กลางแดดเป็นเวลานาน กรมสนับสนุนบริการสุขภาพห่วงผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง แดดแรงจัด แนะสุขบัญญัติดูแลสุขภาพตนเอง และไม่ประมาทจากการทำงานกลางแจ้ง
นายแพทย์สามารถ ถิระศักดิ์ รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กล่าวว่า ประชาชนที่ทำงานกลางแจ้งสามารถดูแลสุขภาพตนเอง และป้องกันอุบัติภัยต่างๆ ด้วยการไม่ประมาท ตามหลักสุขบัญญัติ ดังนี้