"ไข้หวัดใหญ่" (Influenza) มักจะระบาดมากในช่วงฤดูฝน ระหว่างเดือนมิถุนายน-ตุลาคม และฤดูหนาว เดือนมกราคม-มีนาคม ของทุกปีซึ่งโรคไข้หวัดใหญ่นี้จะมีอาการรุนแรงและมีโอกาสเกิดโรคแทรกซ้อนจนถึงขั้นเสียชีวิตได้มากกว่าโรคไข้หวัดทั่วไปซึ่งวิธีการป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่นั้นมีหลายรูปแบบด้วยกัน
สำหรับปีนี้ กรมควบคุมโรค ร่วมกับ สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) พร้อมให้บริการประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยงผู้มีสิทธิบัตรทอง เข้ารับบริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ฟรีได้ตามจุดให้บริการต่าง ๆ ตั้งแต่วันนี้ 1 พ.ค.2566 – 31 ส.ค.2566 หรือจนกว่าวัคซีนฯ จะหมด
วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธุ์
วัคซีนที่นำมาฉีดเป็นไปตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) ครอบคลุมการป้องกันเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ 3 สายพันธุ์ ได้แก่
พร้อมกันนี้ สปสช. ได้ร่วมกับ ธนาคารกรุงไทย อำนวยความสะดวกให้กับประชาชนซึ่งอาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานครสามารถลงทะเบียนจองสิทธิฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ผ่านทางแอพพลิเคชัน "เป๋าตัง" ได้อีกด้วยโดยเริ่มเปิดให้ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2566 ที่ผ่านมา
กลุ่มเป้าหมาย 7 กลุ่มเสี่ยง
1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป (ให้บริการตลอดทั้งปี)
2.เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปีทุกคน
3.ผู้มีโรคเรื้อรัง ดังนี้ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน
4.ผู้ที่อายุ 65 ปีขึ้นไป
5.โรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง (รวมผู้ติดเชื้อ HIV ที่มีอาการ)
6. โรคอ้วน (น้ำหนัก> 100 กิโลกรัม หรือ BMI > 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร)
7. ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้
ช่องทางการรับบริการ
1.ติดต่อที่หน่วยบริการหรือสถานพยาบาลประจำของท่าน หรือหน่วยบริการในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ดูรายชื่อได้ที่ "กระเป๋าสุขภาพ" แอปเป๋าตัง
2.เฉพาะ กทม. จองสิทธิการฉีดวัคซีนฯ ล่วงหน้าผ่าน "กระเป๋าสุขภาพ" แอปเป๋าตัง ได้ โดยระบบเปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย. - 31 ส.ค. 2566 หรือจนกว่าวัคซีนจะหมด
3.ผู้ที่อยู่ใน กทม. แต่ไม่สะดวกจองผ่านแอปเป๋าตัง ให้ติดต่อได้ที่หน่วยบริการในระบบ สปสช.ได้ทุกแห่ง
4.การจองนัดหมายเข้ารับบริการขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของแต่ละหน่วยบริการ หากไม่สามารถทำนัดหมายได้ กรุณาติดต่อสอบถามการเข้ารับบริการกับหน่วยบริการโดยตรง
5.ขณะนี้ให้บริการเฉพาะผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง 30 บาท) ส่วนสิทธิการรักษาอื่นรอประกาศอีกครั้ง
กรณีมีข้อสงสัยติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
1.สายด่วน สปสช. 1330
2.ช่องทางออนไลน์