รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความ โดยมีข้อความระบุถึงปัญหาของระบบการแพทย์ไทย ว่า
กรณีศึกษาล่าสุดของน้องหมอที่ลาออกจากราชการ สะท้อนปัญหาสำคัญ 3 เรื่องใหญ่ของสังคมไทยในปัจจุบัน และจะรุนแรงขึ้นในอนาคต
หมอธีระ บอกว่า หากพิจารณาให้ดี จะพบว่า ไม่ว่าจะกรณีนี้หรือกรณีอื่นในอดีต น้องไม่ได้รับการเพาะบ่มให้มีภูมิต้านทานในชีวิตอย่างเพียงพอ ทำให้เวลาออกไปทำงานเจอปัญหาต่างๆ ก็ไม่สามารถปฏิบัติตนให้ทำงานอย่างมีความสุขได้ จะตำหนิน้องก็ไม่ได้ เพราะผมเองก็เคยเป็น และเจอโน่นนี่นั่นซึ่งเป็นเหตุการณ์เลวร้ายในชีวิตมาไม่น้อย ตัดสินใจผิดพลาดในชีวิตหลายต่อหลายครั้ง แต่สุดท้ายผ่านพ้นมาได้เพราะพระคุณของครอบครัวที่ให้กำลังใจ สนับสนุน และอดทน
สำหรับสิ่งที่เป็นปัญหาของกรณีนี้คือ การที่มีเมตตากรุณามากเกินไปจนทำร้ายตนเองทั้งกายและใจ การมีเมตตาและกรุณานั้นดี แต่ต้องเดินด้วยทางสายกลาง ช่วยในสิ่งที่พอทำได้และไม่ทำร้ายร่างกายและจิตใจตนเองจนเกินไป
หากย้อนกลับไปได้ อยากบอกน้องหมอว่า ระบบนั้นไม่ล่มสลายง่ายๆ ขาดตัวเราไป ก็จะมีคนมาแทน แต่จะดีเท่าเราหรือเปล่านั้นไม่มีใครรู้ แต่ที่แน่ๆ คือไม่ค่อยมีคนมาเสียใจหรือใส่ใจกับการอยู่ของเรา แต่ครอบครัวและคนที่เรารักนั้นต้องการเรามากกว่า หากเป็นอะไรไป เค้าจะเสียใจที่สุด
ดังนั้นต่อให้งานเยอะแค่ไหน ก็ต้องมีลิมิต รู้ว่าเวลาไหนควรกินข้าวก็ต้องกิน ไม่ใช่ฝืนไม่กินแล้วเจ็บป่วยไม่สบาย จะกลายเป็นเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย
ยามไม่สบาย เช่น แผลที่ตา เรียนมาก็รู้ว่าเป็นโรคที่ต้องรีบรักษา ต่อให้ระบบโรงพยาบาลจะมีงานเยอะแค่ไหน นี่คือสิ่งจำเป็นเร่งด่วน ต้องไปรักษาตัวเองก่อน ไม่ใช่ไปรักษาคนอื่นแล้วตนเองตาบอดหรือตาเป็นแผลเป็นตลอดไป กรณีแบบนี้ "ต้องยอมทิ้งงาน" และรักตัวเองก่อน
เฉกเช่นเดียวกัน หากคนไข้เยอะเกินกว่าคนในโรงพยาบาลจะรับไหวในระยะยาว ก็ต้องตัดสินใจกำหนดกฎเกณฑ์ของการให้การดูแลรักษาที่ทำได้จริง และทำได้อย่างมีประสิทธิภาพตามทรัพยากรจริงที่มี หากฝืนทำไปแบบเตี้ยอุ้มค่อม ปัญหาความผิดพลาดก็จะเพิ่มเป็นเท่าทวีคูณ และมีการฟ้องร้องตามมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คนในสังคมจะได้รับทราบ และปรับตัว ไปรับการดูแลรักษาที่อื่นหากทำได้ หรือปฏิบัติตนในแนวทางอื่นๆ อันสมควรแก่อัตภาพ เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา...
พรหมวิหาร 4 เป็นแนวธรรมปฏิบัติเพื่อปกครองและอยู่ร่วมกับผู้อื่น ประกอบด้วยหลักปฏิบัติ 4 ประการ ได้แก่
การใช้ชีวิตของน้องหมอในปัจจุบันและในอนาคตนั้น จำเป็นต้องระลึกถึงปัญหา ทั้งจากระบบ จากคนในสังคม และจากตัวเรา คนอื่นๆ ทั้งนักบริหาร หรือคนในสังคม เค้าไม่มาแยแสอย่างที่เราอยากให้เค้าทำหรอก เพราะเราไม่ใช่ครอบครัวหรือคนที่เค้ารักจริง เวลามีสื่อหรือใครไปบีบให้เค้าแก้ปัญหา อย่างมากก็ออกมาแก้เกี้ยวไปวันสองวัน จากนั้นก็เหมือนเดิม