วัคซีนโควิด คือปัจจัยสำคัญในการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 โดยเฉพาะในปัจจุบันที่โควิดมีการกลายพันธุ์ไปหลากหลายสายพันธุ์
แม้ว่าจะไม่สามารถป้องการการติดเชื้อได้ 100% แต่ก็ช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยจากการติดเชื้อได้
ล่าสุดรศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความเกี่ยวกับการอัพเดทความรู้โควิด19 ว่า
Novavax จะผลิตวัคซีนที่จำเพาะต่อสายพันธุ์ XBB น่าจะมีใช้ได้ในไตรมาสสุดท้ายของปี
โดยวัคซีนของ Novavax เป็นชนิด Protein-based vaccine
หมอธีระ ระบุอีกว่า แม้เคยติดเชื้อมาก่อน ก็ควรป้องกันตัวสม่ำเสมอ ทีมงานจากประเทศเยอรมันได้เผยแพร่ผลการศึกษาในวารสารทางวิทยาศาสตร์การแพทย์ Frontiers in Immunology เมื่อ 13 กรกฎาคม 2566 พบว่า
กลุ่มคนที่เคยได้รับวัคซีนมาก่อนอย่างน้อย 2 เข็ม เมื่อเกิดการติดเชื้อ Omicron สายพันธุ์ย่อย BA.5 แล้ว ระดับภูมิคุ้มกันในน้ำเลือดที่เกิดขึ้นกลับมีน้อยกว่าการติดเชื้อสายพันธุ์ก่อนหน้า เช่น เดลต้า และ Omicron BA.1
ข้อค้นพบนี้ตีระฆังเตือนว่า ความเชื่อที่เคยบอกเล่ากันว่าติดเชื้อแล้วภูมิจะขึ้นสูงและน่าจะป้องกันการติดเชื้อในอนาคตได้ดีไปอย่างน้อยหลายเดือนนั้นน่าจะไม่เป็นจริงแล้วในยุคที่ Omicron BA.5 ระบาด เป็นต้นมา
ดังนั้นคนที่เคยติดเชื้อ BA.5 มาก่อน จึงมีความเสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อซ้ำได้หากไม่ป้องกันตัว
อย่างน้อยที่สุด ก็เป็นข้อดีที่ย้ำเตือนให้เราเห็นการเปลี่ยนแปลงของไวรัส ที่ส่งผลต่อการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันของเรา เน้นย้ำให้เราเห็นความสำคัญของพฤติกรรมป้องกันตัว ใส่หน้ากาก ระวังการคลุกคลีใกล้ชิดกับผู้อื่นโดยไม่ป้องกัน
หมอธีระ ระบุอีกว่า Long COVID เป็นสาเหตุของอาการป่วยทางระบบประสาทอันดับสามในอเมริกา สื่อในอเมริกา FOX32 รายงานผลการศึกษาของ Northwestern Medicine ซึ่งติดตามผู้ติดเชื้อราว 1,800 คนตั้งแต่ปี 2020-2022
โดยพบว่ามีอัตราการเกิดปัญหา Long COVID สูงถึง 1 ใน 3 (ณ ปัจจุบัน WHO ชี้ว่าอัตราเกิดราว 10%, US CDC ระบุว่าโอกาสเกิดราว 1 ใน 5) และระบุว่าขณะนี้ Long COVID เป็นสาเหตุของอาการป่วยทางระบบประสาทเป็นอันดับสามในสหรัฐอเมริกา
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวไม่ได้ระบุข้อมูลการศึกษาโดยละเอียด จำเป็นต้องรอดูผลการศึกษาฉบับเต็มต่อไป