“ตรัยญา” จัดทัพรับเวลเนสบูม ชู Prevention-Holistic ลองสเตย์ผู้สูงวัย

ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าธุรกิจสุขภาพและความงามเป็นอุตสาหกรรมที่เนื้อหอม มีผู้เล่นในหลายอุตสาหกรรมต้องการเข้ามาลงทุนโดยเฉพาะในเซกเมนต์ของ “Wellness” เมื่อเจาะลงลึกจะพบว่าธุรกิจเวลเนส เป็นเมกะเทรนด์ที่เติบโตอย่างมากในช่วงหลังโควิด

ตามข้อมูลจากสถาบันด้านสุขภาพสากล (GWI) ประเมินว่าอุตสาหกรรมสุขภาพของโลกระหว่างปี 2566-2568 มีการเติบโตเฉลี่ย 7.5% และจะมีมูลค่ารวมสูงถึง 6.99 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2568 โดยการดูแลสุขภาพส่วนบุคคลและความงามยังครองสัดส่วนใหญ่ของมูลทั้งหมดราว 19.90% จึงเป็นอุตสาหกรรมที่มีโอกาสมากมาย

วันนี้จึงเห็นหลายแบรนด์ลุกขึ้นมาปรับตัว ปรับแผนเดินหน้ารุกทำตลาด รวมถึง “ตรัยญา” (TRIA) สถาบันสุขภาพและความงาม ภายใต้การบริหารโดยกลุ่มโรงพยาบาลบางปะกอก

พญ.พิมพ์ชนก บุษกรเรืองรัตน์ ผู้อำนวยการด้านการแพทย์ สถาบันสุขภาพและความงาม “ตรัยญา” เปิดเผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ถึงยุทธศาสตร์ของตรัยญานับจากนี้ว่า หลังจากที่กลุ่มโรงพยาบาลบางปะกอก  เข้ามาบริหารเมื่อ 6 ปีก่อน ได้กำหนดแนวทางของ “ตรัยญา” ให้เดินหน้าภายใต้ 3 เสาหลัก ประกอบด้วย

• Cell : สุขภาพของระบบชีวเคมีในร่างกาย พื้นฐานการทำงานของระดับเซลล์
• Body : สุขภาพของระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ ในแง่ความแข็งแรง ความยืดหยุ่น และการเผาผลาญออกซิเจน
• Mind : สุขภาพของอารมณ์ ในการจัดการกับความเครียดและสิ่งกระตุ้น

ควบคู่ไปกับการ ซัพพอร์ตทั้ง Cell, Body และ Mind ด้วย Personal Life โดยยึดจากผลการตรวจร่างกายของคนป่วย เพื่อเสริมสิ่งที่ขาดได้ตรงเป้าหมาย รวมถึงเรื่องของ Life style Medicine และส่วนซัพพอร์ตการนอน การทานอาหาร อากาศ สิ่งแวดล้อมและการออกกำลังกายเป็น One Stop Service

“เราเชื่อว่าทุกคนจะมีชีวิตที่ยืนยาวร่างกายต้องดีทั้งภายนอกและภายใน แต่จิตใจก็เป็นองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญ เราไม่อยากดูแลลูกค้าหรือคนไข้เป็นช่วงๆ แต่เป้าหมายของเราคือการทำให้ลูกค้ามีชีวิตยืนยาวโดยไม่ป่วยหรือไม่ต้องใช้ยาประคับประคอง โดยใช้วิตามินหรือวิธีการต่างๆมาเสริม รวมถึงการดีท็อกซ์ทั้งร่างกายและการดีท็อกซ์จิตใจ”

ปัจจุบันตรัยญามีผู้สนใจเข้ารับบริการจาก 2 ส่วนคือผู้ใช้บริการที่มาจากฝั่งทางโรงพยาบาล และกลุ่มคนที่มองหาบริการเวลเนสจริงๆโดยบริการที่มีผู้สนใจใช้บริการอันดับ 1 คือ ความงามภายนอก Aesthetic อันดับ 2 การดูแลสุขภาพหรือ Anti-Aging และอันดับ 3 บริการส่วนซัพพอร์ตทั้งการ Relax ออกกำลังกาย นวดหรือการกินอาหาร อย่างไรก็ตาม ตรัยญา ต้องการเพิ่มสัดส่วนการดูแลสุขภาพหรือ Anti-Aging ให้มากขึ้น และเป็นบริการที่คนมาใช้เป็นอันดับ 1 เพราะเชื่อว่าเมื่อคนเริ่มรับรู้เรื่องของสุขภาพการไปต่อส่วนอื่นจะง่ายขึ้น

“เรามีกลุ่มธุรกิจโรงพยาบาลในเชิงของการรักษาทั้งบางปะกอก 9 และปิยะเวท แต่เราก็เล็งเห็นถึงการป้องกันสุขภาพให้กับประชาชนดีกว่าการรักษาที่ปลายเหตุ ซึ่งเป็นเทรนด์ที่กำลังมาแรง มีตัวเลขการลงทุนในธุรกิจลักษณะนี้เติบโตอย่างก้าวกระโดดจากผู้เล่นในหลายอุตสาหกรรมที่อยากเข้ามาจับตลาดนี้ แต่เราเองถือเป็นผู้เชี่ยวชาญที่มีแบ็คกราวด์ เป็นโรงพยาบาลและบุคลากรที่เชี่ยวชาญ ดังนั้นเราเชื่อว่าในธุรกิจนี้เราเติบโตได้ดีในระดับหนึ่ง ตอนนี้เราจึงหันกลับมาเน้นในเรื่องของการป้องกัน”

อย่างไรก็ดีเชื่อว่าตลาดเวลเนสปีนี้มีการแข่งขันสูงมาก คนที่เชี่ยวชาญก็อยากเปิด คนที่ไม่เชี่ยวชาญแต่มีเงินก็อยากเปิด แบรนด์ใดที่มีแบ็คกราวด์หรือพื้นฐานที่ค่อนข้างดี มีความน่าเชื่อถือคนก็จะเลือกใช้บริการ ก่อนหน้าโควิด ตรัยญาได้ใช้งบหลักร้อยล้านบาทรีโนเวทและการปรับในเรื่องของเซอร์วิสให้อยู่ตรงกลางระหว่างโรงแรมและโรงพยาบาล เราจะเป็นเวลเนสที่เอาแต่ละข้อดีของแต่ละส่วนมารวมกันคือ การดูแลสุขภาพจากทางฝั่งของโรงพยาบาลในเชิงป้องกันและในเชิงของ hospitality หรือ Journey ของลูกค้า เพื่อสร้างความแตกต่างจากที่อื่น”

พญ.พิมพ์ชนก กล่าวอีกว่า บริบทใหม่ของตรัยญาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต 1-5 ปีข้างหน้าตรัยญามองไปต่อในเรื่องของธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับสังคมผู้สูงอายุที่จะมาแน่ๆในอีก 5-15 ปีข้างหน้า ซึ่งทางเครือบางปะกอกวางตรัยญาให้เป็นส่วนหนึ่งของการซัพพอร์ตสังคมผู้สูงอายุ ผ่านโปรเจ็กต์ที่มีในแต่ละพื้นที่ โดยจะแตกไปสู่เรื่องของลองสเตย์ในอนาคตเพราะคนสูงอายุปัจจุบันเริ่มตระหนักว่าจะทำอย่างไรให้ในบั้นปลายสุดท้ายไม่เป็นภาระมากกว่า 50% ของผู้สูงอายุอยากมีสุขภาพดี

ทั้งนี้ตรัยญาเตรียมจัด 18 กิจกรรมที่จะเสริมทั้งร่างกาย จิตใจและเซลล์ โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักเป็นกลุ่มคนไทย 80-90% ส่วนหนึ่งเป็นเพราะหลังโควิดประเทศยังไม่ได้เปิดมาก ด้วยเศรษฐกิจไทยและการเมือง ซึ่งตรัยญามองว่า อาจจะยังไม่หนุนให้มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดไปยังต่างชาติได้ แต่วิชันที่ตรัยญามองในอนาคตก็คือสามารถก้าวไปเป็นฮับหนึ่งของ medical tourism เพื่อดึงเงินของต่างชาติเข้ามาได้

“ตรัยญาอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของเครือบางปะกอก ถ้าต่อไปเราสามารถขยายสาขา 2 และสาขาที่ 3 ตามความต้องการที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเราไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเกาะอยู่กับโรงพยาบาล แต่อาจตั้งในรูปแบบ stand alone ในพื้นที่ที่ใช่และขยายได้สะดวกและรวดเร็วทั้งสเกลเล็กและใหญ่ รวมทั้งการขยายในต่างจังหวัดหรือต่างประเทศก็เป็นไปได้

เพราะในช่วงโควิดเราสามารถขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มต่างชาติทั้งกลุ่มลูกค้าคนจีน เมียนมาร์ เวียดนาม ลาว กัมพูชาและกลุ่มตะวันออกกลางที่มาใช้บริการในโรงพยาบาลปิยะเวท และอีกกลุ่มที่มองคือลองสเตย์ของญี่ปุ่น ซึ่งมีดีมานด์สูงและเรามีคอนเนคชั่นตรงนี้ ทำให้มีตลาดหลากหลายขึ้น”

สำหรับโปรเจ็กต์ลองสเตย์สำหรับผู้สูงอายุ “ตรัยญา” วางโมเดลการบริการครบวงจร ประกอบไปด้วย “ที่พักแนวสูง” เริ่มจากด้านหลังตรัยญาซึ่งอยู่จุดกลางของเมือง (ย่านพระราม9) ดังนั้นกลุ่มเป้าหมายหลักจึงเป็นกลุ่มไฮเอ็นด์ ที่มีกำลังซื้อสูง โดยมีตรัยญาจะเป็น 1 ในซัพพอร์ตของลองสเตย์ในอนาคตทั้งออกกำลังกาย อาหารเสริม วิตามิน การเสริมสุขภาพร่างกาย จุดเด่นคือโลเคชั่นที่อยู่บริเวณเดียวกับโรงพยาบาลทำให้สามารถส่งต่อผู้พักอาศัยที่มีปัญหาสุขภาพรักษาต่อในโรงพยาบาลในเครือได้ทันที

2  เรื่องที่อาจไม่รู้

1. “ตรัยญา” เกิดขึ้นเมื่อ 15 ปีก่อนโดยนพ.บุญ วนาสิน ซึ่งขณะนั้นเป็นเจ้าของโรงพยาบาลปิยะเวช ซึ่งใช้งบลงทุนกว่า 500 ล้านบาทในการสร้างศูนย์สุขภาพครบวงจรและใหญ่ที่สุดในเอเชีย

2. กลุ่มกระทิงแดง เข้ามาซื้อกิจการต่อ พร้อมกับเพิ่มบริการด้านเมดิคอลและ Anti-Aging

หน้า 15 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 43 ฉบับที่ 3,909 วันที่ 30 กรกฎาคม - 2 สิงหาคม พ.ศ. 2566