โควิด19 ยังคงมีการแพร่ระบาดอย่างต่อทั่วโลก รวมถึงมีการเปลี่ยนแปลงสายพันธุ์เพื่อหลบหลีกภูมิคุ้มกันจากวัคซีนโควิด
สำหรับสายพันธุ์ล่าสุดที่กำลังถูกจับตาเป็นอย่างมากได้แก่ โควิดสายพันธุ์ BA.2.86
ล่าสุดรศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ (หมอธีระ) คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Thira Woratanarat (ป๊ามี้คีน)" โดยมีข้อความระบุถึงสถานการณ์ระบาดของ BA.2.86 ว่า
ประเมินสถานการณ์ระบาดของ BA.2.86 (Pirola)
รายงานการตรวจพบ
พบว่ามีรายงานการตรวจพบแล้วในอิสราเอล เดนมาร์ก สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา (รัฐมิชิแกน และรัฐโอไฮโอ) ญี่ปุ่น (คนเดินทางจากญี่ปุ่นไปตรวจพบที่รัฐเวอร์จิเนีย สหรัฐอเมริกา) แอฟริกาใต้ และล่าสุดคือสวิสเซอร์แลนด์ (พบในน้ำเสียจากชุมชนเทศบาลในเขตปกครองของ Bern, ข้อมูลจาก Prof.Stadler T) และไทย (พบในน้ำเสียจากชุมชน ข้อมูลจาก Dr.Wannigama L)
ดังนั้นการตรวจพบแบบดาวกระจายดังกล่าว ครอบคลุมทั่วโลก ทั้งทวีปอเมริกา ยุโรป เอเชีย และแอฟริกา
ด้วยเหตุผลหลักเรื่องจำนวนการสุ่มตรวจสายพันธุ์ของระบบเฝ้าระวังทั่วโลกนั้นมีลดลงไปมาก การมีรายงานการตรวจพบในหลายประเทศหลายทวีปในเวลาสั้นๆ เช่นนี้จึงย่อมบ่งถึงโอกาสที่ BA.2.86 อาจกระจายไปมากเกินกว่าที่คาด จึงทำให้องค์การอนามัยโลกบรรจุสายพันธุ์นี้เป็น Variants under Monitoring และประเทศต่างๆ ติดตามเฝ้าระวังกันอย่างใกล้ชิด เพราะอาจนำไปสู่การระบาดหนักเหมือนตอนช่วงที่ Omicron ปรากฏตัวต่อจากเดลต้า และทำให้เกิดการติดเชื้อจำนวนมาก รวมถึงทำให้มีจำนวนป่วย และเสียชีวิตเพิ่มขึ้น
ระยะเวลาการตรวจพบ
รายงานจากประเทศต่างๆ ทั่วโลกนั้น ตรวจพบตั้งแต่ช่วงกรกฎาคม 2023 เป็นต้นมา
ต้นกำเนิด
ยังไม่ทราบแน่ชัด ขณะนี้ผู้เชี่ยวชาญประเมินกันว่าสายพันธุ์นี้อาจเกิดขึ้นมาในช่วงพฤษภาคม-กรกฎาคม 2023 โดยอาจเกิดจากการกลายพันธุ์ของไวรัสในร่างกายผู้ที่ติดเชื้อแบบเรื้อรัง (chronic infection) ก่อนจะแพร่เชื้อสู่ผู้อื่น อย่างไรก็ตามคงต้องรอการพิสูจน์กันต่อไป
ลักษณะการกลายพันธุ์ของไวรัส
สิ่งที่ทำให้ทั่วโลกวิตกกังวลกันมากคือ ตำแหน่งการกลายพันธุ์ของ BA.2.86 นั้นมีจำนวนมาก แตกต่างจาก Omicron สายพันธุ์อื่นๆ ที่กำลังระบาดอยู่และที่เคยระบาดมาก่อน ทั้ง BA.2 รวมถึง XBB.1.5 และ EG.5.1 (ภาพที่ 1, Cr: Topol E, Scripps Research)
ทั้งนี้ตำแหน่งการกลายพันธุ์เหล่านั้น มีหลายตำแหน่งที่ชี้ให้เห็นว่าน่าจะทำให้สมรรถนะของไวรัสพัฒนาขึ้นกว่าเดิม ทั้งในเรื่องการดื้อต่อภูมิคุ้มกัน และการจับกับเซลล์เป้าหมาย
ปรากฏการณ์ตำแหน่งกลายพันธุ์จำนวนมากของ BA.2.86 นี้จึงมีการประเมินว่า อาจมีโอกาสที่จะถูกระบุเป็นสายพันธุ์ชื่อใหม่ถัดจาก Omicron และอาจต้องยกระดับเป็น Variant of Concern (VOC) หากมีการระบาดมาก หรือทำให้โรครุนแรงขึ้น หรือส่งผลต่อประสิทธิภาพของวัคซีนและยาที่มีอยู่ ทั้งนี้จำเป็นต้องรอผลการศึกษาถัดจากนี้
การประเมินผลกระทบจากไวรัส BA.2.86
ก่อนหน้านี้ องค์การอนามัยโลกได้ออกรายงานประเมินความเสี่ยงของ BA.2.86 โดยระบุว่าอาจมีโอกาสที่จะทำให้เกิดการระบาดทั่วโลกได้
ล่าสุด US CDC ได้ออกผลการประเมินความเสี่ยงเมื่อคืนนี้ 23 สิงหาคม 2023 โดยระบุว่า BA.2.86 มีสมรรถนะที่จะทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น ทั้งในกลุ่มคนที่เคยติดเชื้อโรคโควิด-19 มาก่อน รวมถึงกลุ่มคนที่เคยได้รับวัคซีนมาแล้ว
ข้อมูลเรื่องความรุนแรงของโรคนั้นยังไม่สามารถประเมินได้
ก่อนว่าในสถานการณ์จริงจะเป็นตามที่คาดหรือไม่
ด้วยความรู้จนถึงปัจจุบัน ชี้ให้เห็นว่า BA.2.86 อาจนำไปสู่การระบาดทั่วโลกได้ เนื่องจากสมรรถนะของไวรัสที่เพิ่มขึ้นจากการกลายพันธุ์มากจนต่างไปจากสายพันธุ์เดิมๆ ที่ระบาดมา