จากข้อมูลสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ที่ระบุว่า มูลค่าตลาดท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ของไทยในปี 2566 คาดว่าจะสูงถึง 3.1 แสนล้านบาท และอาจแตะระดับ 7.6 แสนล้านบาท ในปี 2570 ทำให้ภาคเอกชนต้องเร่งปรับตัวทั้งการพัฒนาทักษะบุคลากรและเทคโนโลยีใหม่ๆ มีคุณภาพสูง เพื่อให้สอดรับกับเทรนด์โลกและความต้องการของผู้บริโภคทั้งในประเทศและจากนักท่องเที่ยวนานาชาติ ซึ่งมองหาการดูแลสุขภาพที่มีคุณภาพและมีราคาไม่แพง
นายวรุตม์ สุทธินันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอสล่า จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ด้านความงามและเวชสำอางระดับโลก เปิดเผยว่า เพื่อรองรับโอกาสดังกล่าว บริษัทได้จับมือร่วมกับ APEX Medical Center จัดเวิร์กช้อป SoftFil เข็ม Cannula มาตรฐานสากลจากประเทศฝรั่งเศส เพื่อพัฒนาวงการความงามในประเทศไทย
ด้วยการถ่ายทอดความรู้ประสบการณ์ และอัปเดตเทรนด์ผลิตภัณฑ์ความงามด้านการปรับแต่งโครงสร้างใบหน้าด้วยการฉีดฟิลเลอร์ มุ่งเน้นการขับเคลื่อนวงการความงามของประเทศไทยให้เท่าทันกับมาตรฐานสากลและเทรนด์ความงามของโลกปัจจุบัน
“เชื่อว่าเทรนด์ในเรื่องสุขภาพผิวที่ดี ผิวแข็งแรง และการย้อนวัยให้กับผิวกำลังมาแรงในปีนี้ ต่อเนื่องไปยังปี 2567 โดยเฉพาะการฉีดฟิลเลอร์ถือเป็นกลุ่มที่ได้รับความนิยมสูงสุด เพราะเป็นทางลัดของคนอยากสวยแบบเร่งด่วน และต้องการผลลัพธ์ที่รวดเร็ว เห็นผลทันที สามารถแก้ปัญหาที่ตรงจุด นอกเหนือจากการใช้สกินแคร์บำรุงผิวซึ่งถือเป็นการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมเพื่อส่งผลที่ดีมากยิ่งขึ้น
หนึ่งในปัจจัยที่ส่งผลให้ตลาดมีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากคนหันมาสนใจกับรูปลักษณ์ภายนอก มีการลงรูป คอนเทนต์ต่างๆ ในโซเชียลมีเดียให้หลากหลายช่องทาง ทั้ง Facebook, Instagram, TikTok ฉะนั้นการมีหน้าตา ผิวพรรณที่ดี จะสามารถเสริมความมั่นใจ และบุคลิกภาพได้ดีขึ้น รวมทั้งเทรนด์ของ การต่อต้านริ้วรอยก็มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างมาก ทำให้ผู้บริโภคกลุ่มตลาดพรีเมี่ยมกล้าใช้จ่ายในด้านการเสริมความงามมากขึ้น
ปัจจุบันประเทศไทยถือเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ในการมาใช้บริการด้านเมดิคัล ส่งผลให้การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (Medical Tourism) มีการเติบโตต่อเนื่อง โดยไทยมีสัดส่วนกว่า 9% ตามมาด้วยอินโดนีเซีย 6% และมาเลเซีย 5% ขณะที่ในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกมีสัดส่วนมูลค่ามากที่สุดคิดเป็น 35% ของตลาดโลก