ศ.นพ ประกิต วาทีสาธกกิจ นักวิชาการ อาจารย์แพทย์ เป็นอายุรแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคปอด กล่าวว่า ในประเทศไทยเอง วัยรุ่นหญิงไทยสูบบุหรี่ไฟฟ้า เรื่องที่น่าห่วงมาก อัตราการสูบบุหรี่ไฟฟ้าของวัยรุ่นหญิงไทยอายุ 13-15 ปี ที่สูง 15% สูงกว่า อัตราการสูบบุหรี่มวนของหญิงไทย 1.3% ถึง 11.5 เท่า ซึ่งจะมีผลเกี่ยวเนื่องกับอนาคตหากตั้งครรภ์ สารจากนิโคตินจะส่งผลเสียต่อร่างกายแลละบุตรในครรภ์ หากสังคมไทยไม่สามารถยับยั้งวัยรุ่นหญิงจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า
งานวิจัยขนาดใหญ่ วิเคราะห์หญิงตั้งครรภ์ 3,129,259 ราย ระหว่างปี 2012-2019 สหรัฐอเมริกาใช้กัญชา 23,007 คน ใช้ผลิตภัณฑ์นิโคติน 56,811 คน ใช้ทั้ง 2 อย่าง 10,312 คน
ผลการศึกษาเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการใช้มาตรการด้านสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและการให้คำปรึกษาจากแพทย์ก่อนตั้งครรภ์หรือระหว่างตั้งครรภ์ เพื่อช่วยบรรเทาผลลัพธ์ที่ไม่พึงประสงค์
มีงานวิจัยที่พบว่าหญิงอเมริกากว่า 5 หมื่นคนที่ใช้ผลิตภัณฑ์นิโคตินจนถึงคลอดลูก ทำให้มีเด็กคลอดมาเสียชีวิต เข้าไอซียู โรคแทรกของแม่ ฯลฯแสดงถึงฤทธิ์เสพติดนิโคติน ที่แม้จะรักลูกในท้องมากเพียงไร แม่ที่ตั้งครรภ์ก็ยังเลิกสูบบุหรี่ไม่ได้ หลักฐานมีมากขึ้น ๆ ว่าบุหรี่ไฟฟ้าเสพติดหนักยิ่งกว่าบุหรี่ธรรมดา ยิ่งเลิกยากกว่าบุหรี่ธรรมดา
ที่สำคัญ อันตรายที่การสูบบุหรี่มีต่อหญิงตั้งครรภ์ มาจากสารนิโคติน ที่ทำให้เส้นเลือดของรกหดตัว ทำให้เลือดไปเลี้ยงทารกในครรภ์ลดลง ส่งผลให้ทารกได้รับสารอาหารและออกซิเจนน้อยลง เป็นอันตรายต่อการเจริญเติบโตของร่างกายทารก โดยเฉพาะการพัฒนาการของสมอง
การใช้ผลิตภัณฑ์นิโคติน กัญชาในหญิงตั้งครรภ์ เพิ่มความเสี่ยง