หมอยง เตือนภัย ฝีดาษวานรสายพันธุ์ใหม่อาจระบาดทั่วโลก

19 ส.ค. 2567 | 08:00 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ส.ค. 2567 | 08:05 น.

หมอยง ชี้ ฝีดาษวานรสายพันธุ์ Clade 1b จากแอฟริกาอันตรายกว่าเดิม ติดง่ายผ่านละอองฝอย พบทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ย้ำไทยต้องเฝ้าระวังทุกราย พร้อมตรวจแยกสายพันธุ์ให้ได้อย่างรวดเร็ว ป้องกันการแพร่ระบาด

เกาะติดสถานการณ์ ฝีดาษวานร MPOX วันนี้ 19 สิงหาคม ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวกรณีฝีดาษวานร MPOX สายพันธุ์ที่ต้องเฝ้าระวัง โดยเรียกร้องให้มีการตรวจวินิจฉัยและแยกสายพันธุ์ให้ได้อย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดที่อาจเกิดขึ้นได้ 

สำหรับใจความสำคัญที่ปรากฎในเฟซบุ๊ก มีรายละเอียดดังนี้ เดิมการระบาดของฝีดาษวานร ใน 2 ปีที่ผ่านมา ระบาดมากนอกทวีปแอฟริกา เป็นสายพันธุ์กลุ่ม 2  Clade 2b รวมทั้งที่พบในประเทศไทยมากกว่า 400 ราย

สายพันธุ์นี้ไม่รุนแรง พบในผู้ใหญ่ เพศชาย ส่วนใหญ่จะเป็นการสัมผัสจากเพศสัมพันธ์ โดยเฉพาะในชายรักชาย 98% จึงเป็นเพศชาย

สายพันธุ์ที่มีการระบาดในประเทศคองโก ในปีนี้มีผู้ป่วยนับหมื่นราย และแพร่กระจายไปหลายประเทศในทวีปแอฟริกา เป็นสายพันธุ์ดั้งเดิมที่อยู่ในกลุ่มที่ 1  Clade 1 และมีการเปลี่ยนแปลงเป็น Clade 1b

สายพันธุ์นี้พบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ ชายและหญิง และที่เสียชีวิตมากส่วนใหญ่จะเป็นเด็ก เป็นสายพันธุ์ที่มีความรุนแรงกว่า สายพันธุ์กลุ่ม 2 การติดต่อนอกจากสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดแล้ว ยังพบว่าฝอยละอองทางการหายใจ ก็สามารถทำให้ติดได้

สายพันธุ์นี้จึงเป็นสายพันธุ์ที่ต้องเฝ้าระวัง เพราะอาจจะทำให้เกิดการระบาดใหญ่ได้ทั่วโลก

สำหรับประเทศไทย ทุกรายของฝีดาษวานรจะต้องมีการเฝ้าระวัง ตรวจวินิจฉัยได้อย่างรวดเร็วและแยกสายพันธุ์ให้ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อมาตรการการป้องกันไม่ให้แพร่กระจายของสายพันธุ์กลุ่มที่ 2 ในประเทศไทย