ทรูบิสิเนสผนึกอินเทล พัฒนา AI โซลูชันวินิจฉัย รักษา ฟื้นฟูผู้ป่วย

05 ก.ย. 2567 | 10:00 น.
อัพเดตล่าสุด :05 ก.ย. 2567 | 10:02 น.

'ทรูบิสิเนส' ร่วมมือ อินเทล พัฒนา AI เปิดตัวโซลูชันใหม่ วินิจฉัย-รักษา-ฟื้นฟู-จัดการข้อมูลผู้ป่วย ช่วยแพทย์วินิจฉัยแม่นยำรวดเร็วขึ้น ยกระดับสาธารณสุขไทย

นายพิชิต ธันโยดม หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกลุ่มธุรกิจองค์กร บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ทรูบิสิเนส เร่งพัฒนานวัตกรรมบริการ ควบคู่กับการนำเทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์ AI มาปรับใช้เพื่อเพิ่มศักยภาพขององค์กร 

โดยการร่วมมือกับผู้นำระดับโลกอย่าง อินเทล ในครั้งนี้ เรามุ่งพัฒนาโซลูชันที่จับต้องได้และใช้งานได้จริง เพื่อสนับสนุนองค์กรธุรกิจไทยเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล เติมเต็มวิสัยทัศน์ของทรู คอร์ปอเรชั่น ผู้นำโทรคมนาคม-เทคโนโลยี ที่จะเป็นมากกว่าผู้ให้บริการเครือข่ายวินิจฉัยรักษา 

นายพิชิต ธันโยดม 

ความร่วมมือในครั้งนี้ มุ่งเน้นการผสมผสานและขับเคลื่อนการทำงานของโซลูชันอัจฉริยะด้านการดูแลสุขภาพที่ครอบคลุมทั้งการฟื้นฟูดูแล และการจัดการข้อมูลทางการแพทย์ เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมการแพทย์และสาธารณสุขของไทยให้ก้าวล้ำไปอีกขั้น

อีกทั้งยังช่วยสนับสนุนการทำงานของแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศ ให้สามารถส่งมอบบริการทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ แม่นยำ และรวดเร็วมากยิ่งขึ้นขณะเดียวกันผู้ป่วยในทุกพื้นที่ทั่วประเทศสามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้อย่างทั่วถึง ตลอดจนได้รับประสบการณ์และผลลัพธ์ในการรักษาที่ดียิ่งขึ้น เพื่อคุณภาพชีวิตและสุขภาพที่ดีขึ้นแบบยั่งยืนของคนไทย

นอกจากนี้ ทรูบิสิเนส และ อินเทล ยังมุ่งส่งเสริมการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์และเพิ่มประสิทธิผลของบริการด้านการดูแลสุขภาพบนพื้นฐานของการใช้ AI อย่างมีจริยธรรม ปลอดภัย และโปร่งใส

ทรูบิสิเนสผนึกอินเทล พัฒนา AI โซลูชันวินิจฉัย รักษา ฟื้นฟูผู้ป่วย

โซลูชันด้านการดูแลสุขภาพอัจฉริยะเหล่านี้ ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพบนเครือข่ายทรู 5G ที่รองรับการรับ-ส่งข้อมูล ควบคุมและสั่งการได้แบบเรียลไทม์ จึงเอื้อต่อการพัฒนาระบบอัตโนมัติต่างๆ  ในการดูแลผู้ป่วย ช่วยลดต้นทุนทั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์และขั้นตอนการรักษา รวมถึงแบ่งเบาภาระของบุคลากรทางการแพทย์

ยิ่งไปกว่านั้น โซลูชัน Smart Healthcare ยังมีการบันทึกข้อมูลการรักษาในระบบดิจิทัล เพื่อให้ AI นำไปวิเคราะห์เชิงลึก และทำงานร่วมกับการวินิจฉัยของแพทย์และผู้เชี่ยวชาญ ช่วยเพิ่มศักยภาพในการดูแลรักษาผู้ป่วยได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ รวมถึงการรักษาอาการที่ซับซ้อนและเฉียบพลันมีประสิทธิภาพมากขึ้นและได้ผลลัพธ์ดีขึ้น

ความร่วมมือในครั้งนี้ นำไปสู่การพัฒนาโซลูชันด้านสุขภาพที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ในการประมวลผลบนอุปกรณ์ปลายทางผ่านโซลูชันซอฟต์แวร์ของอินเทล เช่น OpenVino ซึ่งช่วยย่นระยะเวลาทั้งในการวินิจฉัยและการรักษา

มุมมองอนาคตของระบบสาธารณสุข

ผศ.นพ.สิทธาคม ผู้สันติ ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายนโยบายและแผนคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า แม้สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 จะส่งผลกระทบอย่างมาก แต่ก็เป็นตัวเร่งสำคัญที่ผลักดันให้เทคโนโลยีด้านสุขภาพในประเทศพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว

ในอนาคตอันใกล้ เราอาจจะเห็นภาพของการดูแลสุขภาพที่เปลี่ยนแปลงไป โดยผู้ป่วยสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์เบื้องต้นและติดตามอาการตนเองได้ที่บ้านมากขึ้น ผ่านการสนับสนุนจากเทคโนโลยีทางการแพทย์และการให้คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทางไกล ขณะที่บทบาทของโรงพยาบาลจะเปลี่ยนไปเป็นศูนย์กลางในการดูแลผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงและซับซ้อนมากขึ้น

ทรูบิสิเนสผนึกอินเทล พัฒนา AI โซลูชันวินิจฉัย รักษา ฟื้นฟูผู้ป่วย

นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของจำนวนประชากรสูงอายุในสัดส่วนที่สูงถึง 20% ก็เป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ เพื่อรองรับความต้องการด้านสุขภาพของกลุ่มประชากรนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่มีศักยภาพในการช่วยแพทย์วินิจฉัยโรคได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น ทำให้การรักษาพยาบาลมีประสิทธิภาพมากขึ้น

โซลูชันการวินิจฉัยและรักษา

1.Telemedicine and Tele ICU บริการการแพทย์ทางไกลผ่านเครือข่ายทรู 5G ที่เชื่อมโยงชุดอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ติดตั้งในท้องถิ่นต่างๆ กับระบบหลักของโรงพยาบาล โดยมีแพลตฟอร์มจัดเก็บข้อมูลและประวัติของผู้ป่วย บันทึกทุกการดำเนินการทางการแพทย์ เช่น การวินิจฉัยและรักษา การนัดพบแพทย์ การผ่าตัด

พร้อมแสดงข้อมูลผ่านแดชบอร์ดเพื่อให้แพทย์สามารถให้คำปรึกษาและรักษาผู้ป่วยได้แบบเรียลไทม์จากระยะไกล ช่วยเพิ่มโอกาสการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ของผู้ที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศ ดูแลสุขภาพได้อย่างต่อเนื่อง ลดความจำเป็นในการเดินทางไปโรงพยาบาล

2.Future of Large Language Model (LLM) แพลตฟอร์มสำหรับตรวจสอบประวัติผู้ป่วยและวิเคราะห์อาการเบื้องต้น โดยผู้ป่วยสามารถกรอกข้อมูลส่วนบุคคลและอาการเจ็บป่วย ระบบ AI จะช่วยวิเคราะห์อาการร่วมกับข้อมูลทางการแพทย์ที่ทันสมัยล่าสุด

พร้อมให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสาเหตุและแนวทางการรักษาโรคหรือปัญหาสุขภาพ รวมถึงขั้นตอนถัดไปในการรักษา ช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาที่รวดเร็วมากขึ้น ลดขั้นตอนและเวลาในการพบแพทย์ อีกทั้งยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์ด้วย

ทรูบิสิเนสผนึกอินเทล พัฒนา AI โซลูชันวินิจฉัย รักษา ฟื้นฟูผู้ป่วย

3.Pathology as a Service แพลตฟอร์มที่ใช้เทคโนโลยีสแกนชิ้นเนื้อเพื่อแปลงภาพพยาธิวิทยาเป็นดิจิทัลซึ่ง AI สามารถวิเคราะห์ได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้กระบวนการทดสอบตัวอย่างชิ้นเนื้อและเลือดมีความรวดเร็วมากขึ้น จึงช่วยให้นักพยาธิวิทยาทำงานได้เร็วขึ้น เพิ่มทั้งประสิทธิภาพและความแม่นยำในการวินิจฉัย การตรวจพบโรคตั้งแต่ระยะแรกจึงทำได้ง่ายขึ้น

ทำให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงการรักษาได้ทันท่วงที เช่น การพยาธิวิทยาดิจิทัลที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถตรวจพบมะเร็งได้ภายในไม่กี่นาที ซึ่งกระบวนการแบบดั้งเดิมอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ โดยเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลบนคลาวด์และระบบเครือข่ายที่ปลอดภัยของทรู คอร์ปอเรชั่น ช่วยให้สถานพยาบาลต่างๆ ทั่วประเทศไทยสามารถนำบริการพยาธิวิทยา (Pathology-as-a-Service) ในระบบดิจิทัลไปใช้ได้อย่างราบรื่น ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการวินิจฉัย ขณะเดียวกันยังช่วยลดค่าใช้จ่ายต่อการตรวจพบโรค

ทรูบิสิเนสผนึกอินเทล พัฒนา AI โซลูชันวินิจฉัย รักษา ฟื้นฟูผู้ป่วย

4. Ophthalmology as a Service แพลตฟอร์มที่ให้บริการสำหรับการวิเคราะห์และคัดกรองจักษุวิทยา  เช่น  จอประสาทตาเสื่อมจากอายุและเบาหวาน โดยใช้กล้องเรตินาที่ขับเคลื่อนด้วย AI และคอมพิวเตอร์วินิจฉัยแบบอัตโนมัติ ใช้เวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีในกระบวนการตรวจวิเคราะห์อย่างแม่นยำ

โดยไม่ต้องใช้ยาหยอดขยายม่านตาที่ทำให้รู้สึกไม่สบายตา โดยชุดผลิตภัณฑ์ที่รองรับ AI ของอินเทล ช่วยเพิ่มความสามารถในการตรวจพบโรค เช่น เบาหวานขึ้นตา ความหนาแน่นของกระดูกในโรคกระดูกพรุน และพยาธิวิทยาสำหรับมะเร็งเต้านมและมะเร็งไต

โซลูชันเพื่อการดูแลผู้ป่วย

Digital Patient Twin (PMaaS) เป็นระบบที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อติดตามและดูแลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด โดยใช้เซ็นเซอร์ที่ติดตั้งบนเพดานห้องเพื่อเก็บข้อมูลสำคัญต่างๆ เช่น อุณหภูมิร่างกาย อัตราการเต้นของหัวใจ และการเคลื่อนไหวของผู้ป่วย

ข้อมูลเหล่านี้จะถูกส่งไปยังระบบคลาวด์เพื่อวิเคราะห์และแจ้งเตือนหากพบความผิดปกติ ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถเข้าไปดูแลผู้ป่วยได้ทันท่วงที ลดความเสี่ยงในการเกิดเหตุไม่คาดคิด และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

Residential Care Management เป็นแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อดูแลผู้สูงอายุหรือผู้ป่วยที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ โดยใช้เทคโนโลยี IoT และ AI ในการติดตามและวิเคราะห์ข้อมูลสุขภาพของผู้ป่วยผ่านอุปกรณ์ที่พกพาได้ เช่น นาฬิกาอัจฉริยะ หรือแท็บเล็ต ข้อมูลที่ได้จะถูกส่งไปยังแพลตฟอร์มกลางเพื่อให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถเข้าถึงและวิเคราะห์ได้ตลอดเวลา ช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลที่เหมาะสมและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

โซลูชันการจัดการข้อมูลทางการแพทย์

Transforming of PACS (Picture Archiving and Communication System) โซลูชันที่จะพลิกโฉมระบบจัดเก็บรูปภาพทางการแพทย์ (Medical Images) หรือภาพถ่ายทางรังสี ผ่านแพลตฟอร์ม AI และประยุกต์ใช้ AI ได้ทุกที่ แม้ในพื้นที่ห่างไกล โดยเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มระบบคลาวด์ได้ทุกรูปแบบ ลดข้อจำกัดและความยุ่งยากเรื่องโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่ซับซ้อน