ทันตแพทย์อรรถพร ลิ้มปัญญาเลิศ รองเลขาธิการและโฆษกสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า สปสช. เขต 13 กรุงเทพมหานคร ได้เดินหน้าประชาสัมพันธ์โครงการ “30 บาท รักษาทุกที่ ในพื้นที่กรุงเทพฯ” ในทุกมิติทั้งการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่าง ๆ
รวมถึงการจัดกิจกรรมลงพื้นที่ เพื่อสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชน และเชิญชวนสถานพยาบาล/คลินิกเอกชน เข้าร่วมเป็นหน่วยบริการนวัตกรรมให้มากขึ้น เพื่อนำไปสู่เป้าหมายในการช่วยยกระดับการรักษาพยาบาล เพิ่มความสะดวกในการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ในพื้นที่ใกล้เคียง และการลดความแออัดในโรงพยาบาลขนาดใหญ่
ซึ่งปัจจุบันในพื้นที่เขต กทม. ทั้ง 50 เขต มีหน่วยสถานพยาบาล/คลินิกเอกชน เข้าร่วมเป็นหน่วยบริการนวัตกรรมแล้วกว่า 1,331 แห่ง แบ่งออกเป็น
พร้อมกันนี้ จากข้อมูลการรับบริการของประชาชนสิทธิบัตรทองที่อาศัยในกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.66 เข้าใช้บริการแล้วกว่า 144,884 ราย 246,164 ครั้ง (ข้อมูล ณ วันที่ 4 ก.ย.67) และตัวเลขเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่มีการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนมาใช้บริการมาตั้งแต่ช่วงกลางเดือนพฤษภาคม 2567
ดังนั้น สปสช. เขต 13 กรุงเทพมหานคร จึงได้เร่งลงพื้นที่เพื่อสร้างการรับรู้และรับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนให้มากขึ้น โดยล่าสุด ได้จัดทีมลงพื้นที่เขตบางเขน บริเวณตลาดถนอมมิตร ถนนวัชรพล เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีประชากรอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ประมาณกว่า 1.8 แสนคน
มีผู้ถือสิทธิบัตรทองเกือบ 50% และมีจำนวนสถานพยาบาล/คลินิกเอกชนเข้าร่วมโครงการประมาณ 40 กว่าแห่ง ซึ่งมีปริมาณไม่มากนัก จึงจำเป็นต้องเร่งประชาสัมพันธ์และเชิญชวน เพื่อเพิ่มจำนวนหน่วยบริการนวัตกรรมให้ครอบคลุม พร้อมกันนี้ยังได้ประชาสัมพันธ์สิทธิต่างๆ ในการเข้ารับบริการ โครงการ “30 บาท รักษาทุกที่ ในพื้นที่กรุงเทพฯ” แก่ประชาชน
รวมถึงการเปิดรับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนที่เคยใช้บริการ ซึ่งความคิดเห็นส่วนใหญ่เป็นไปในทิศทางที่ดี คือ ชอบแนวคิดของโครงการ สามารถรับบริการได้รวดเร็ว สะดวก เพียงแค่บัตรประชาชนใบเดียว แต่ก็ยังมีบางส่วนที่มีข้อสงสัยกับรูปแบบการให้บริการที่ยังไม่เข้าใจมากนัก โดยทาง สปสช. จะนำความคิดเห็นต่าง ๆ เหล่านี้ ไปปรับปรุงให้ดีขึ้น สร้างข้อมูลที่เข้าใจง่ายและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนต่อไป
“สำหรับโครงการ “30 บาท รักษาทุกที่ ในพื้นที่กรุงเทพฯ” ประชาชนผู้ถือสิทธิบัตรทองสามารถเข้ารับบริการได้แล้ววันนี้ ไม่ต้องใช้ใบส่งตัว ใช้เพียงแค่บัตรประชาชนใบเดียว เพียงสังเกตตราสัญลักษณ์ใหม่สีแดง “30 บาทรักษาทุกที่” ซึ่งจะปรากฏที่หน่วยบริการนวัตกรรม 7 ประเภท ได้แก่ คลินิกเวชกรรม, คลินิกการพยาบาลและการผดุงครรภ์, คลินิกทันตกรรม, คลินิกเทคนิคการแพทย์, คลินิกการแพทย์แผนไทย
คลินิกกายภาพบำบัด และ ร้านยา GPP+ ร้านยาคุณภาพ ส่วนสถานพยาบาล/คลินิกเอกชนที่สนใจเข้าร่วมโครงการ สามารถยื่นเอกสารสมัครขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการนวัตกรรมในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้แล้ววันนี้เช่นกัน ผ่านทางเว็บไซต์ https://ossregister.nhso.go.th/#/public-portal หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร สายด่วน สปสช. 1330 กด 5