กรมอนามัย ให้ความรู้ 'คุมกำเนิด' ป้องกันตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น

28 ก.ย. 2567 | 06:00 น.
อัปเดตล่าสุด :28 ก.ย. 2567 | 06:07 น.

กรมอนามัย ร่วมกับ สวท. - ไบเออร์ไทย ผลักดันให้วัยรุ่นเข้าใจเรื่องคุมกำเนิด เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พร้อม ในวันคุมกำเนิดโลก 2567

องค์กรภาคีในประเทศไทยโดย สำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สวท) และ บริษัท ไบเออร์ไทย จำกัด ร่วมรณรงค์เนื่องในวันคุมกำเนิดโลก 2567 หรือ World Contraception Day 2024 

ซึ่งตรงกับวันที่ 26 กันยายนของทุกปี ภายใต้แนวคิด Empowering Choices, One Decision at a time สร้างพลังความรู้ สู่อนาคตคนรุ่นใหม่ ขับเคลื่อนสร้างองค์ความรู้เรื่องการคุมกำเนิดที่ถูกต้อง เพื่อให้คนรุ่นใหม่ตัดสินใจและสามารถกำหนดอนาคตของตัวเองได้อย่างมีคุณภาพ ลดภาวะการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs) 

ดร.นพ.บุญฤทธิ์ สุขรัตน์

ดร.นพ.บุญฤทธิ์ สุขรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า สถิติการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นไทยแม้ว่าจะมีแนวโน้มที่ลดลง แต่ยังคงเป็นปัญหาที่ท้าทาย สะท้อนจากสถานการณ์อนามัยการเจริญพันธุ์ในวัยรุ่นและเยาวชนล่าสุด ปี 2565 ของกรมอนามัย

พบว่า วัยรุ่นหญิงอายุ 10-19 ปี คลอดบุตรรวมทั้งสิ้น 42,457 คน แบ่งเป็นช่วงอายุ 10-14 ปี จำนวน 1,569 คน คิดเป็นอัตรา 0.8 ต่อวัยรุ่นหญิงอายุ 10-14 ปี พันคน และช่วงอายุ 15-19 ปี จำนวน 40,888 คน คิดเป็นอัตรา 21.0 ต่อวัยรุ่นหญิงอายุ 15-19 ปี พันคน มีการคลอดซ้ำในหญิงอายุต่ำกว่า 20 ปี จำนวน 3,181 คน คิดเป็นร้อยละ 7.5 ของแม่วัยรุ่นอายุ 10-19 ปีที่ตั้งครรภ์

กระทรวงสาธารณสุขจึงตั้งเป้าลดอัตราการคลอดของวัยรุ่นหญิงอายุ 10-14 ปี ไม่เกิน 0.5 ต่อวัยรุ่นหญิงอายุ 10-14 ปี พันคน และวัยรุ่นหญิงอายุ 15-19 ปี ไม่เกิน 15.0 ต่อวัยรุ่นหญิงอายุ 15-19 ปี พันคน ภายในปี 2570 สิ่งสำคัญคือการทำให้วัยรุ่นเข้าถึงข้อมูลการคุมกำเนิดที่ถูกต้อง

กรมอนามัย ให้ความรู้ \'คุมกำเนิด\' ป้องกันตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น

รวมถึงผลกระทบสุขภาพอนามัยที่เกิดกับวัยรุ่นเองและเด็กเกิดใหม่ นอกจากนั้น การส่งเสริมการเกิดที่มีคุณภาพสำหรับผู้ที่มีความพร้อม และสนับสนุนให้เกิดการคุมกำเนิดสำหรับผู้ที่ยังไม่พร้อมจะมีบุตร เป็นเรื่องที่กระทรวงฯ ให้ความสำคัญ เพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตของคนไทยให้ดียิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ภาครัฐมีแนวทางส่งเสริมให้ประชาชนเข้าถึงการคุมกำเนิด โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ให้บริการวางแผนครอบครัวรวมถึงการคุมกำเนิดทั้งแบบชั่วคราว ได้แก่

  • ยาเม็ดคุมกำเนิด
  • ยาเม็ดคุมกำเนิดฉุกเฉิน
  • ยาฉีดคุมกำเนิด
  • ยาฝังคุมกำเนิด
  • ห่วงอนามัย

การคุมกำเนิดแบบถาวร ได้แก่ การทำหมันหญิงและชาย โดยไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับคนไทยทุกสิทธิ์การรักษา นอกจากนั้น ยังสามารถรับถุงยางอนามัย และยาเม็ดคุมกำเนิด ฟรี ผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตังได้

ด้าน ผศ.ดร.สุกัญญา ศรีโพธิ์ เลขาธิการสมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สวท) กล่าวว่า การเรียนรู้วิธีการคุมกำเนิดและป้องกันการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น นับเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนอนาคตให้กับคนรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นช่วงวัยที่เราไม่สามารถปิดกั้นการเชื่อมต่อความสัมพันธ์รอบตัว

ผศ.ดร.สุกัญญา ศรีโพธิ์

ดังนั้นจึงควรสนับสนุนและส่งเสริมให้วัยรุ่น นิสิต นักศึกษาเข้าถึงองค์ความรู้ได้อย่างครบถ้วนและถูกต้อง เพราะการคุมกำเนิดมีรายละเอียดต้องทำความเข้าใจ ทั้งเรื่องวิธีการคุมกำเนิดสำหรับผู้ชายและผู้หญิง การเลือกใช้และประสิทธิภาพวิธีการคุมกำเนิดเป็นทางเลือกในการป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ และช่วยป้องกันโรคติดต่อที่เกิดจากเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วย

ผศ.ดร.สุกัญญา กล่าวต่อว่า สวท ดำเนินการรณรงค์สนับสนุนให้มีการวางแผนครอบครัว และลดปัญหาท้องไม่พร้อมในวัยรุ่นมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เพื่อให้ทุกชีวิตของการเกิดเป็นไปอย่างมีคุณภาพ

ด้าน นายแบรดลี่ย์ วิลเลี่ยมส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไบเออร์ไทย จำกัด และผู้จัดการทั่วไปกลุ่มธุรกิจฟาร์มาซูติคอล กล่าวว่า หลายประเทศมีอัตราการตั้งครรภ์ในวัยรุ่นสูง โดยมีการประมาณการว่า ในประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลางมีเยาวชน ในวัย 15-19 ปี ตั้งครรภ์จำนวน 21 ล้านคนทุกปี

นายแบรดลี่ย์ วิลเลี่ยมส์ 

บางกรณีจบลงด้วยการยุติการตั้งครรภ์ และเยาวชนอายุ 15-19 ปี ประมาณ 12.8 ล้านคน และเยาวชนอายุ 10-14 ปี กว่า 500,000 คน คลอดบุตรทุกปี (3) สำหรับไบเออร์ในฐานะบริษัทด้านวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตและการดูแลสุขภาพผู้หญิง

"เราเชื่อว่าการวางแผนครอบครัวที่ดีและเข้าถึงบริการอนามัยการเจริญพันธุ์ที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยส่งเสริมความเท่าเทียมกันทางเพศ การขยายโอกาสทางเศรษฐกิจ การแก้ปัญหาความยากจนและลดปัญหาสังคม ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (SDGs)"

พญ.ปานียา สูตะบุตร ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ บริษัท ไบเออร์ไทย จำกัด กล่าวต่อว่า สิ่งสำคัญคือ เยาวชนควรศึกษาข้อมูลเรื่องการคุมกำเนิดจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ หรือปรึกษาเภสัชกรและแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อนำไปสู่การตัดสินใจที่ถูกต้อง ทั้งนี้ ไบเออร์ได้รณรงค์ผ่านแคมเปญ Bayer For Her ให้ผู้หญิงสามารถพูดคุยเรื่องสุขภาพได้อย่างเปิดเผยมากขึ้น กล้าที่จะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เพื่อที่จะไม่พลาดทุกโอกาสสำคัญในชีวิต

สำหรับกิจกรรมวันคุมกำเนิดโลก 26 กันยายน 2567 ภายใต้แคมเปญ #Empowering Choices, One Decision at a time มีการดำเนินกิจกรรมเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่

1.การเสวนา Empowering Choices, One Decision at a time จากสูตินรีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ได้แก่ นพ.โอฬาริก มุสิกวงศ์ และรศ.ร.อ.นพ. มานพชัย ธรรมคันโธ ร.น. ที่ปรึกษาคณะกรรมการ สมาคมวางแผนครอบครัวแห่งประเทศไทยฯ พร้อมด้วยคุณฮาน่า ฮาอึน ชอง Influencer จากเพจ “hanazyndrome” ตัวแทนเยาวชนที่จะมาแชร์ประสบการณ์ ถ่ายทอดสดผ่านทางโซเชียลมีเดียของคลับนี้เลดี้คุม และสวท

2.จัดทำข้อมูล infographic เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการคุมกำเนิดที่ถูกต้องผ่าน Facebook Page คลับนี้เลดี้คุม และ TikTok คลับนี้เลดี้คุม และโซเชียลมีเดียของสมาคมวางแผนครอบครัวฯ ตลอดเดือนกันยายน

กรมอนามัย ให้ความรู้ \'คุมกำเนิด\' ป้องกันตั้งครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น

3. จัดทำ คู่มือรอบรู้เรื่องยาเม็ดฮอร์โมนรวมภายใน 3 นาที สำหรับเภสัชกร มีวัตถุประสงค์เพื่อให้เภสัชกรมีข้อมูลที่ถูกต้องเพื่อเป็นคู่มือสำหรับการให้คำปรึกษา และแนะนำการใช้ยาฮอร์โมนคุมกำเนิดเพื่อให้มีความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุดต่อผู้มารับบริการ ณ ร้านขายยา

นอกจากนี้ สำนักอนามัยการเจริญพันธุ์ และไบเออร์ไทย ยังจัดกิจกรรมให้ความรู้และคำปรึกษาโครงการ Young Love รักเป็นปลอดภัย ในระดับมหาวิทยาลัยและโรงงานอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2557 โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมเพิ่มขึ้นทุกปี

สำหรับปีนี้มีแผนจัดกิจกรรมทั้งสิ้น 5 ครั้ง คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมกว่า 3,000 คน วัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้เรื่องการคุมกำเนิดที่เหมาะสมในกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงาน ลดการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ นอกจากนี้ยังจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการเรื่องเทคโนโลยีการวางแผนครอบครัว และการดูแลสุขภาพอนามัยสตรีให้กับบุคลากรสาธารณสุข รวม 6 ครั้งในปีนี้ มีบุคลากรเข้าร่วมกว่า 700 คน

ขณะเดียวกัน ยังเปิดช่องทางการสื่อสารออนไลน์ใหม่ ได้แก่ Line@Young Love เพื่อสื่อสารและประชาสัมพันธ์ข้อมูลเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นมากขึ้น