นายวรเทพ วงศาสุทธิกุล นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมน้ำยางข้นไทย เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” สาเหตุที่ราคาน้ำยางสดกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง จากสมาชิกมีการแย่งซื้อกันขึ้นไปวันละ 3-4 บาท จากราคา เมื่อวาน (วันที่ 20 ม.ค.64) ราคา อยู่ที่ 53.80 บาท แต่ว่าวันนี้ราคาปรับเพิ่มมาอีก 56 บาท/กก. บางที่โดยเฉพาะหาดใหญ่มีการเกทับราคาขึ้นไปถึง 57-58 บาท/กิโลกรัม
"ความจริงสถานการณ์ไม่มีอะไรที่น่าตื่นเต้น ลูกค้าต่างประเทศจะเข้ามากว้านซื้อยังไม่มี เพียงแต่โรงงานมีการคาดการณ์ว่าในปีนี้ยางพารา อาจจะขาดแคลน ก็ทำให้เกิดการแย่งซื้อตุนไว้ก่อน"
ประกอบกับจังหวัดภาคใต้เกิดปัญหาโรคใบร่วง คาดการณ์ว่าประมาณกว่า ล้านไร่ โดยเฉพาะจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทั้งจังหวัดเลย และก็เหลือเวลาอีก 2 เดือน จะเข้าสู่ฤดูแล้ง ใบร่วงอีกที และตอนนี้มีใบร่วงมีใบใหม่ออกมา แล้วก็ออกดอก และยางก็ไม่ออกแล้ว อีกทั้งทางภาคใต้ตอนล่างยังมีฝนตก จึงมองกันว่าในฤดูกาลของปีนี้ที่จะมีช่วงพีกผลผลิตมาก อาจจะไม่เป็นไปคาดหมายแล้ว
"หลังเทศกาลตรุษจีนอีก 1 เดือน ยางก็จะหมดแล้ว มองข้ามไปถึงเดือนมีนาคม เมษายน และพฤษภาคม เป็นช่วงที่ยางผลัดใบแล้วก็จะไม่มียาง ดังนั้นจึงเป็นสาเหตุให้โรงงานน้ำยางข้นแย่งกันซื้อน้ำยางสดในช่วงระยะสั้นๆ ถ้าไม่ซื้อเก็บไว้ต่อไปอีก 2 เดือนข้างหน้าก็ไม่มียางพาราจะขาย โรงงานเลยแย่งซื้อกันใหญ่"
นายวรเทพ กล่าวว่า ในปีนี้ต้องพิจารณาจากสภาพดินฟ้าอากาศ ถ้าหากในช่วงมีนาคม เมษายน มีฝนมา มีลักษณะอากาศ แบบลานีญ่า ฝนจะมาเร็ว แล้วถ้ามาเร็วก็จะเป็นโชคดีของเรา เพราะช่วงพฤษภาคมจะสามารถกรีดยางได้ แต่ถ้าหากเกิดภัยแล้ง ต้องลากไปถึงเดือนมิถุนายน ซึ่งเป็นปัจจัยภายในทั้งสิ้น แต่ปัจจัยภายนอกยังไม่มี แต่เกิดจากอุปสงค์ในประเทศว่าของจะมีน้อย ดังนั้นต่างคนต่างคิดว่าจะไม่มีของก็ต้องแย่งซื้อแพงขึ้น
โดยเฉพาะทางภาคใต้ หาดใหญ่แข่งขัน รุนแรงมาก เป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ เล่นวัดกำลังกัน แบบซื้อราคาเกทับ กันไปมา จึงทำให้ราคาปรับขึ้นไป เราเรียกกลุ่มนี้ ภาษาชาวบ้านว่า “นักเลง” ทั้งที่ความจริงเราซื้อน้ำยางสด เท่ากับราคายางแผ่น ประกอบกับยางแผ่น และยางแท่ง ยางก้อนถ้วยราคาก็ไม่ลง ยืนแข็ง
เนื่องจากความต้องการของผู้ผลิตยางล้อรถยนต์มีความต้องการสูงอยู่ เพราะฉะนั้นเลยทำให้ธุรกิจที่โรงงานน้ำยางข้นต้องแย่งซื้อกัน นี่คือสาเหตุหลักๆ และคาดการณ์ว่า ในสัปดาห์หน้า จะเห็น “น้ำยางสด" อาจจะราคาถึง 60 บาท/กิโลกรัม มีความเป็นไปได้สูง
ด้านนาย ณกรณ์ ตรรกวิรพัท ผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ไตรมาสแรกช่วงต้นปี 2565 ไม่น่าห่วง เพราะประเทศจีนกับเวียดนาม เริ่มเข้าปิดกรีด ผลผลิตน่าจะลดลงบ้างเล็กน้อย ต่อมาช่วงผลผลิตเราค่อนข้างน้อยอยู่แล้ว ไม่ห่วงราคาเท่าไรนัก แต่ว่าพอช่วงปลายปีต้องมาดูอีกทีว่าเป็นอย่างไร ผมมองว่าน่าจะโอเค ความต้องการยางใช้ยังมีเยอะ เศรษฐกิจกลั